อุทาหรณ์ซิ่งแข่งรถ วัยรุ่น วัย16 กับเพื่อนซิ่งหมอบแข่งรถจักรยานยนต์คู่กันมาด้วยความเร็ว เจอเก๋งอีกเลนแซงรถคันหน้ากำลังจะเข้าเลน วัยรุ่นตกใจหักรถข้ามเลนชนหน้ารถเก๋งอย่างจัง กระเด็นตกถนนตายคาที่ ส่วนรถจักรยานยนต์ เละเป็นซากเหลือแต่ล้อหน้า ที่เหลือลอยตกคลอง
วันที่ 20 มี.ค. 65 เวลาประมาณ 18.30 น. ร.ต.ท. (หญิง) ชนิกานต์ สินธุสกุลชัย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตจึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ และแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุถนนสายบุรีรัมย์ – ประโคนชัย บริเวณสะพานห้วยตลาด บ้านเย้ยสะแก ต.เสม็ด ประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี้ห้อซูซูกิ สีขาว ป้ายทะเบียน 3 กส 1137 กทม.ตกอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้าของตัวรถ มีร่องรอยยุบจากการชนสภาพพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตก ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวฟ 110 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพเหลือแต่ล้อหน้าชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณไหล่ทางของสะพาน ส่วนตัวรถจักรยานยนต์ที่เหลือ ไม่พบคาดว่าน่าจะตกอยู่ในคลองน้ำ ตรวจสอบพบศพนายจิรเมศ วารัมย์ อายุ 16 ปี ชาวต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สภาพคอหัก ต้นขาซ้ายเนื้อฉีกจนเห็นกระดูก แผลฉกรรจ์ นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน
สอบถาม นายสุรศักดิ์ ชาวอ.ประโคนชัย อายุ 33 ปี คนขับรถเก๋งเล่าว่า ตนเองกลับจากทำธุระที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ กำลังจะขับรถกลับบ้าน ที่อ.ประโคนชัย พร้อมกับลูกชายวัย 6 ขวบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองขับมาความเร็วปกติแซงรถคันหน้า พ้นแล้ว จังหวะกำลังจะเข้าเลนของตัวเอง ได้มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับมาในลักษณะขับหมอบแข่งกันมาด้วยความเร็ว จาก อ.ประโคนชัย เพืขาเข้าเมืองบุรีรัมย์ มาถึงหน้ารถของตนเองแบบกระชั้นชิด โดยคนขี่รถจักรยานยนต์คล้ายตกใจ ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักข้ามเลน มาชนเข้ากับด้านหน้าของรถยนต์เสียงดังสนั่น ทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทาง ตัวรถกระเด็นตกคลอง เหลือแต่ ล้อหน้า ตกอยู่ข้างทางดังกล่าว
ด้าน น.ส. บุษกร หล่อประโคน อายุ 43 ปี ป้าคนเสียชีวิตเล่าว่าคนตายอาศัยอยู่กับตาและยาย ชอบยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนในหมู่บ้านมาขับขี่ออกข้างนอกประจำ ซึ่งตนเองก็เตือนหลานเป็นประจำให้ขับรถอย่างระมัดระวัง อย่าขับรถเร็ว มันอันตราย สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ วัยรุ่นทุกคน อย่าขับรถไว จะได้ไม่มีอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้น พอเกิดการสูญเสีย ก็เสียใจทั้งครอบครัว ที่เสียคนที่เรารักไป เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเรียกคนขับรถยนต์เก๋ง และพยานผู้เห็นเหตุการณ์ มาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
