เกิดเหตุพระวัย 58 ปี ผูกคอตัวเองเสียชีวิตคากุฎิปริศนา เจ้าอาวาสเผย ผู้ตายอยากเลิกเหล้า ตัดสินใจมาบวช อยู่ในศีลเพียง 16 วัน เกิดอาการเพี้ยน คลั่ง สุดท้ายผูกคอตัวเอง คาดลงแดง และคิดมากที่อยู่ห่างเมีย
วันที่ 26 เม.ย. 65 พ.ต.ท.ชาญชัย คำดีเกิด สารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก ว่ามีพระผูกคอเสียชีวิต ที่วัดป่าใหม่ศรีสุขนาจะหลวย ต.นิคม จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.สตึก
ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิไม้ชั้นเดียวปลูกอยู่ใกล้กับเมรุของวัด พบศพพระสุริยา อายุ 58 ปี เป็นชาว ต.ร่อนทอง อ.สตึก ใช้สายไฟฟ้าสีเขียว ผูกติดกับขื่อกุฎิคล้องคอตนเองจนเสียชีวิต
สอบถาม หลวงปู่สงวน ทีรปุนโย อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัด เล่าว่า เมื่อ 16 วันที่ผ่านมา พระสุริยา มาขอบวช เพราะตั้งใจจะเลิกเหล้า จึงบวชให้ เพราะถือเป็นความตั้งใจดี หลังจากบวช พระสุริยา มีอาการผิดปกติ ไม่พูดจากับใครมากนัก ต่างจากตอนที่ยังไม่บวช มักจะเมาสุรา แล้วเดินสนุกสนานไปตามหมู่บ้าน
ช่วงก่อนเกิดเหตุมักบ่นให้ฟังเสมอว่า จะมีคนมาฆ่าประจำ สังเกตแล้ว น่าจะเกิดจากการหยุดเหล้ากะทันหัน จนมีอาการหลอน แต่ไม่คิดว่าจะไปมาผูกคอตายที่กุฎิดังกล่าว
นางวันเพ็ญ ศรีวิชา อายุ 59 ปี เพื่อนบ้านพระสุริยา เล่าว่า สาเหตุที่พระสุริยา มาบวช เพราะอยากเลิกเหล้า หลังบวชมักจะพูดอยู่เสมอว่า จะมีคนมาฆ่าบ้าง จะเอาปืนมายิงบ้าง ไม่คิดว่าจะผูกคอตายแบบนี้ คาดน่าจะขาดเหล้าเลยคลั่ง
ด้านนายหนูนิตย์ ระยาจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านลิ้นเกี่ย เล่าว่า ก่อนพระสุริยา จะบวช เป็นคนชอบดื่มเหล้า และมีอาหารหลอนเป็นประจำ หลังบวชคิดว่าจะดีขึ้น แต่คาดว่า อาจจะเป็นเพราะหยุดเหล้าแบบกะทันหัน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า”ลงแดง”ประกอบกับผู้ตายเป็นคนขี้หึง เกรงว่าระหว่างบวชจะมีคนมาคุยกับภรรยาที่บ้าน จึงคิดมากจนคุ้มคลั่ง
