พี่สาวถึงกับเป็นลมล้มพับ หลังเห็นศพน้องชาย วัย 43 ปี ออกไปหาหนูนาน 2 วันไม่กลับบ้าน มีคนไปพบกลายเป็นศพ ในไร่อ้อย พร้อมอุปกรณ์หาหนูนา คาด ช็อคหน้ามืดล้มและไม่มีคนช่วย ระหว่างดักหนูกลางป่าอ้อย
วันที่ 7 พ.ค.65 ร.ต.อ.การุณ จันทร์ดอก รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ว่ามีคนเสียชีวิตอยู่กลางป่าอ้อย ท้ายหมู่บ้านดงยายเภา หมู่ 3 ต.นิคม อ.สตึก จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นป่าอ้อยท้ายหมู่บ้าน พบศพนายสุนทร จำปาวดี อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.นิคม อ.สตึก ในสภาพใส่กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ แต่พบเสื้อกล้ามสีแดงหล่นอยู่ข้างศพ คาดว่าผู้ตายน่าจะถอดออกก่อนเสียชีวิต
ระหว่างที่ จนท.กำลังเข้าตรวจสอบ ได้มีพี่สาวซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้านกับน้องชาย เข้ามาดู เห็นสภาพถึงกับเป็นลมล้มพับต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2 วัน
สอบถามประเสริฐ อายุ 70 ปี พ่อตาผู้ตาย เล่าว่า ลูกเขยเป็นคนขยันทำมาหากิน และชอบหาของป่ามาขาย เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ลูกเขย ได้ออกไปหาหนูตามปกติ หลังจากนั้นไม่เห็นหน้า ลูกเมียพยายามตามหา แต่ไม่เจอ คิดว่าน่าจะไปนอนบ้านญาติ กระทั่งมีชาวบ้านมาแจ้ง
ด้านนายแมน จันทร์ลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านดงยายเภา บอกว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าของป่ามันที่อยู่ติดกับป่าอ้อยที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังไปหาเห็ด ว่ามีคนตายอยู่ในไร่อ้อย จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าเป็นนายสุนทร เสียชีวิต
ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบ เบื้องต้นคาดว่าผู้ตาย ซึ่งออกมาหาดักหนูคนเดียว แต่ไปเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเมื่อ 2 วันก่อน มีความเป็นไปได้ที่ผู้ตายน่าจะช็อค หรืออาจหน้ามืดเป็นลม แต่ไม่มีใครช่วย จึงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: