วงจรปิดจับชัด นาทีหนุ่มวัย 39 ปีที่ขโมย ATM ของแม่ไปกดเอาเงิน 109,000 แล้วเอาไปหว่านกลางตลาดสดสตึก บุรีรัมย์ เห็นชัดขณะหว่านหน้าตลาด ผู้คนกรูเข้ามาเก็บเอาเงินไป ให้รีบเอามาคืน แม่เผยโชคดีมีบัตร ATM ธนาคารเดียว เงินในบัญชีมี 1.1 แสน เหลือพันเดียวค้างบัญชี
วันที่ 9 พ.ค.65 กรณีนายวุฒิศักดิ์ หรือปุ่ง อายุ 39 ปี ระบุว่า ขโมยบัตร ATM ของนางสมหวัง อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แม่ของตัวเอง แล้วแอบไปกดเงินจำนวน 109,000 บาท จากนั้นได้เอาไปหว่านกลางถนนหน้าตลาดสดเทศบาลสตึก เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุนางสมหวัง อายุ 70 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิธิวัฒน์ คำนนท์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ช่วยติดตามเงินสดที่หายไปและอยากได้เงินที่คนเก็บไปกลับคืนมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- ชัยภูมิชาวโนนทองสืบสานประเพณีนอนลานตีข้าวเปิดลานศูนย์รวมสุดยอดสินค้าอาหารพื้นบ้านไทยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 68 คึกคักกว่าทุกปี!
- สงขลา จัดใหญ่สุดในภาคใต้ Hatyai Coundown 2025 Happiness illumination ห้ามพลาด
- สงขลา"นทท.มาเลย์ฯเที่ยวไทยเเน่น"รับปิดเทอมและปีใหม่ คาดเงินสะพัดในสงขลานับพันล้านบาท
จนกระทั่ง พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก ได้แจ้งเตือนผู้ที่เก็บเงินของนายปุ่ง ไปได้ให้เอามาคืนที่ สภ.สตึก เพื่อส่งคืนให้นางสมหวัง เจ้าของเงิน หากไม่คืนมีสิทธิ์โดนข้อหารับของโจร เนื่องจากเจ้าของเงินที่แท้จริงได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ซึ่งต่อมาได้มีคนเอาเงินมาคืน 2 รายๆ 1,000 บาท
ส่วนการตรวจสอบ จนท.ทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่สามารถเปิดเข้าห้องควบคุมได้ เนื่องจาก จนท.ที่รับผิดชอบ หยุดเสาร์-อาทิตย์ กลับบ้านที่ต่างจังหวัด
ล่าสุดได้ทำการเปิดภาพวงจรปิดแล้ว พบว่านายปุ่ง ซ้อนรถจักรยานยนต์กับเพื่อน แต่งกายด้วยชุดขาว ทั้งหมวก เสื้อและกางเกง เป็นสีขาวทั้งหมด โดยได้เริ่มหว่านกลางถนนไม่กี่ใบ มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ 2 คน เดินไปเก็บ
จากนั้นนายปุ่ง ได้เคลื่อนรถจักรยานยนต์ไปอีกมุมหนึ่ง แล้วทำการโปรยอีกครั้ง ทำให้เหล่าผู้คน เริ่มรู้แล้ววิ่งกรูตามรถของนายปุ่ง ก่อนนายปุ่ง จะโปรยเงินซึ่งคาดว่าเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 อีกก้อนหนึ่ง กระจายทั่วบริเวณ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นชัดว่ามีใครเก็บไปบ้าง
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางสมหวัง อีกครั้งถามถึงความรู้สึกหลังจากเกิดเหตุ นางสมหวัง เล่าว่า ตอนนี้ยังเสียดายเงินที่ลูกชายเอาไปหว่านเล่น แต่ยังโชคดี ที่เงินแยกบัญชีกัน เงินบัญชีที่ลูกชายเอาไป เป็นบัญชีเดียวที่มีบัตร ATM ตอนนั้นตนจะไม่ทำบัตร ATM แต่พนักงานธนาคารบอกว่า ทำแล้วจะสะดวก ไม่ต้องขึ้นมาเบิก
ตนจึงยอมทำบัตร แล้วเปิดบัญชีไว้จำนวนเงิน 110,000 บาท หักค่าบริการ ATM 1,000 บาท เหลือเงินในบัญชี 109,000 บาท เท่ากับลูกชายกดเอาเงินไปจนเกลี้ยงบัญชี คิดแล้วยังผวาไม่หาย หากมีเงินจำนวน 320,000 อยู่ในบัญชีเดียวคือบัญชีนี้ ตนคงจะกลายเป็นคนหมดตัวทันที
สอบถาม พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก บอกว่า จากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดแล้ว ค่อนข้างชัด ว่าเป็นใครบ้าง ที่ไปเก็บเอาเงิน ส่วนการดำเนินการ จะเข้าไปแจ้งให้เอามาคืนก่อน แต่หากไม่มีใครเอามาคืน อาจจะดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของเงิน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: