ดูซีรีย์ “จอมโจรลูแปง”แล้วคึก หนุ่มวัย 22 ปี ชาว อ.กระสัง บุรีรัมย์ ชอบดูหนังประเภทโจรกรรม ก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงเงินแม่ค้า ได้เงินไปกว่า 25,000 ตำรวจตามรวบทันควัน เจ้าตัวสารภาพไม่คิดจะอยากได้เงิน คิดเพียงว่าอยากลองหลังชิงเงินแล้วจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้าย “ชีวิตจริงไม่เหมือนในหนัง” เพราะเรื่องจริงวงจรปิดเพียบ
วันที่ 8 ส.ค.65 พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และ ร.ต.อ กิตติเณช เดชชัยชาญ รองสารวัตร(สอบสวน) ได้นำตัวนายศราวุธ ก๊กรัมย์ อายุ 22 ปี /ชาวต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ มาสอบสวน หลังจากตามไปจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ แต่ไม่พบอาวุธมีด
หลังไปก่อเหตุใช้อาวุธมีด จี้ชิงเงินสดและกระเป๋าซึ่งมีบัตร ATM อยู่ด้วย ของนางลหล อุนัยบรรณ อายุ 55 ปี แม่ค้าที่ขับรถจะมาหาซื้อของที่ตลาดสดเทศบาลกระสังเพื่อเอาไปขาย ได้เงินทั้งหมดกว่า 25,000 บาท แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.20 น.วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายศุราวุธ มีสีหน้าเรียบเฉย และรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่า ปกติจะชอบดูหนังและเล่นเกมส์ประเภทโจรกรรม ช่วงหลังติดดูซีรีส์เรื่อง “จอมโจรลูแปง” ซึ่งเป็นซีรีส์เชิงโจรกรรมเช่นเดียวกัน เมื่อดูหลายๆเรื่องติดกัน ยอมรับว่ามีความรู้สึกอยากลอง อยากทำว่าจะทำได้เหมือนในหนังหรือไม่
พยายามคิดหลายครั้ง จนตัดสินใจสวมเสื้อแขนยาวมีหมวกสวมใส่แบบฮูด ใส่แมสสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์จอดอยู่ห่างจากจุดที่จะลงมือประมาณ 300 เมตรตามแบบฉบับของหนัง
จากนั้นได้เดินไปที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เมื่อเห็นหญิงสะพายกระเป๋า จึงเข้าไปหาไม่ลังเล ใช้มีดจี้ที่เอวแล้ว บอกให้ส่งกระเป๋ามาให้ ก่อนจะวิ่งไปที่รถตัวเองจอดไว้ แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ เมื่อตรวจสอบพบบัตร ATM เขียนรหัสไว้ด้วย จึงกดเอาได้ 7,000 บาท รวมกับเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าอีก 19,000 ได้เงินไปทั้งหมดกว่า 25,000 บาท
โดยจะไปกดเงินอยู่นอกพื้นที่เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ แล้วกลับบ้าน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งขึ้นเอาไปซื้อเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นเกมส์ราคา 3,000 บาท เอาไปเติมเงินเล่นเกมส์ หมดไป 5,000 บาท เหลือเงิน 17,000 ติดตัวไว้ก่อนตำรวจจะมาจับกุมดังกล่าว
นายศราวุธ บอกด้วยว่า จริงแล้วไม่เคยมีแผนที่จะเอาเงินไปทำอะไร แต่แค่อยากลองเหมือนในหนัง ว่าเราจะทำได้จริงหรือไม่ และหลังจากลงมือแล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ “จะเหมือนในหนังหรือไม่”
สุดท้ายถูกจับ เพราะในหนังไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิด แต่ที่ในเขตเทศบาลกระสัง มีกล้องวงจรปิดเป็นจำนวนมาก “ตนเองไม่รู้”อยากจะฝากขอโทษผู้เสียหายที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากลองเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลจาก พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง ทราบว่า อำเภอกระสัง เป็นหนึ่งในโครงการเซฟตี้โซน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกล้องวงจรปิดทั้งหมดทั้งในเขตเทศบาลกระสัง และรอบนอกกว่า 200 ตัว
หลังรับแจ้ง ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัว ประมาณ 3 ชม.สามารถรู้ตัวผู้ต้องสงสัยทันที ก่อนจะขอศาลออกหมายจับ นำไปสู่การตรวจค้นบ้านพัก พบหลักฐานที่ใช้ในการก่อเหตุครบ
