รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หนุนการท่องเที่ยวเชิงคู่ขนาน เปิดหมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย คู่กับการแข่งขันโมโตจีพี ที่บุรีรัมย์ ชี้การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะต้องให้นักท่องเที่ยวได้มาชื่นชมมากกว่า 1 อย่าง เชื่อเงินสะพัดในช่วงโมโตจีพี ไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท ขณะบรรยากาศที่สนามแข่งรถเป็นไปอย่างคึกคัก
วันที่ 30 ก.ย.65 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมาระบุหลังเดินทางไปเปิดหมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย ที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในช่วงที่มีการจัดการแข่งขันโมโตจีพี ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์
ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และประเทศไทยที่มีการจัดการแข่งขันโมโตจีพี ซึ่งใน 2 ปีแรกเราได้รับลำดับที่ 1 ในการจัดการแข่งขันมีผู้ชมมากที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน ในปีที่ 3 ครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นสนามที่มีผู้เดินทางมาชมการแข่งขันมากที่สุดเช่นเดียวกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- "ทักษิณ"ติดธุระงดร่วมงานบรรจุศพ สจ.โต้ง ส่วน สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้งจะลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี
- รมว.วธ. ยินดีกับ “หลานม่า”เข้ารอบชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เป็น 1 ใน 15 เรื่องสุดท้าย
- บุรีรัมย์ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ จัดโครงการ “พัฒนาวิชาการ ส่งเสริมคุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี ระดับปฐมวัย”
ถือเป็นการสะท้อนได้ว่าประเทศไทยมีความสามารถในการจัดกิจกรรมระดับเบอร์ 1 ของโลกได้ โดยเฉพาะการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ ซึ่งผู้ที่มาชมการแข่งขันคงจะมาชมแล้วกลับเลย ในช่วงเวลาว่างซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางมาก่อนกำหนดอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวก็จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆของจังหวัดบุรีรัมย์
ห้วยจระเข้มาก ก็เป็นอีกหนึ่งแห่ง ที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาสัมผัสเช่นกัน เพราะบริเวณนี้จะมี “นกกระเรียนพันธุ์ไทย” ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พยายามนำเสนอให้นักท่องเที่ยวได้รับจักมาก่อนหน้านี้แล้ว
ซึ่งจากการดูผังการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว นับจากนี้ไปอีกประมาณ 4 เดือน น่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งต่างประเทศและชาวไทยมาท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 15,000 คน นี่คือการประมาณการขั้นต่ำ จะมีเงินสะพัดในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังกล่าวด้วยว่า การแข่งขันโมโตจีพีในครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาชมการแข่งไม่น้อยกว่า 200,000 คน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา มีรายรับตั้งแต่ก่อนการแข่งขันและหลังการแข่งขันประมาณ 5 วัน เมื่อ 2 ปีที่แล้วเรามีรายได้โดยรวมทั้งประเทศไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ปีนี้เราก็มั่นใจว่า เราจะมีรายได้ไม่น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา
เพราะปีนี้ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ผิดปกติ จากข้อมูลพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองไทยในรายการนี้ถึงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จากครั้งที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
สำหรับบรรยากาศทั่วไปบริเวณสนามการแข่งขัน ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศ เดินทางเข้ามาชมกิจกรรมต่างๆที่สนามจัดไวให้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีฝนโปรยปรายมาเป็นระยะก็ตาม.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: