X

บุรีรัมย์ เตรียดจัดแสดง แสง สี เสียง เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย “สร้างคนดีด้วยประวัติศาสตร์ สร้างชาติด้วยอุดมการณ์”

บุรีรัมย์ เตรียดจัดแสดง แสง สี เสียง เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย “สร้างคนดีด้วยประวัติศาสตร์ สร้างชาติด้วยอุดมการณ์ ในวันที่ 5-9 ธค.65นี้ ”

วันที่ 1 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึกจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ พันเอก โอภาส จันทร์อุดม กอ.รมน.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลง เตรียมจัดงานเทศกาลวันพ่อในวันที่ 5-9 ธ.ค.นี้

การจัดกิจกรรมดังกล่าว จะมีการแสดงแสง สี เสียง จากวิทยากรชุดขุนศึก 62 จากวิทยากรจิตอาสา 904 เป็นการแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน จะมีนักเรียนนักศึกษาจากหลานสถาบัน มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปลูกจิตสำนึก รู้คุณแผ่นดินของความเป็นไทย เทิดทูนสถานบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก กล่าวว่า เป็นสิ่งที่คนไทยจะต้องลำลึกถึงคุณของชาติ การพูดการเล่าอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ จึงเอาการแสดงมาเป็นตัวนำเสนอ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยรู้รักสามัคคีให้กับคนในชาติ

พันเอกโอภาส จันทร์อุดม กล่าวว่าถือเป็นภารกิจอย่างหนึ่งของ กอ.รมน.คือการรักษาชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ให้ทุกคนได้ตระหนักสถาบันหลักของชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ที่เราจะต้องไปทำความเข้าใจที่ดี ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย

เพราะที่ผ่านมามักจะมีกลุ่มคนพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ของไทย สื่อสารไปยังเยาวชน ทำให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวระหว่างผู้ปกครองเด็กกับตัวเด็กเอง

ด้านนายนิวัฒน์ โพธิมาศ ผอ.โรงเรียนแคนดงพิทยาคม อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้วิชาประวัตศาสตร์ในตำราเรียน ถูกจัดให้เป็นวิชารอง

ยอมรับว่ากระทรวงฯมีนโยบายดี แต่ไม่มีความเข้มข้น การเรียนวิชาประวัติศาสตร์จะต้องเรียนแบบการปลูกฝัง ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ที่สำคัญการเรียนแล้วจะต้องให้เขาเดินต่อไปได้

นายนิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพยายามทำเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่เด็กไม่ให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์ เพราะเด็กจะถามว่า”ทำไมต้องไปเรียน”เด็กก็จะมุ่งไปที่วิชาหลักคือวิทย์ คณิตฯเป็นต้น จริงเป็นวิชาที่เป็นการพัฒนาสมอง แต่สิ่งที่จะพัฒนาความเป็นให้มารักชาติ เราลืมคิดไป

นายนิวัฒน์ กล่าวต่อด้วยว่า สมมุติถ้าเด็กจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย ระบบโดยทั่วไปจะเน้นดูที่ผลการเรียนของวิทย์ฯและคณิตฯเท่านั้น แต่วิชาประวัติศาสตร์ไม่มี ถ้าเราเพิ่มเข้าไปในวิชาหลักคล้ายกับวิชาหลักเด็กจำเป็นจะต้องมาศึกษาเพื่อให้ได้คะแนนไปเรียนต่อ และเชื่อได้ว่าการเรียนประวัติศาสตร์จะเป็นรูปธรรมได้ทั้งประเทศได้อย่างแน่นอน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน