กรมทางหลวงเดินหน้าฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่รอบตัวอำเภอนางรองเพื่อเก็บข้อมูล หลังจากก่อนหน้านี้มีการแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยการสร้าง ทางเลี่ยงเมืองนางรอง (ทิศใต้) ส่วนใหญ่เห็นด้วยเพราะบุรีรัมย์จะเป็นเมืองท่องเที่ยว และจะมีการเปิดสนามบินนานาชาติ
วันที่ 14 ธันวาคม ที่โรงแรมเอกลดา อำเภอนางรอง นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2 โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจรทางเลี่ยงเมืองนางรอง (ด้านใต้) เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ ขอบเขตขั้นตอนการศึกษา แนวคิดการพัฒนาโครงการ
และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการพัฒนาโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม หลังจากก่อนหน้านี้มีชาวบ้านแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่จะมีการสร้างทางเลี่ยงเมือง ด้วยเหตุผลคนละอย่าง
การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่างจากครั้งที่ผ่านมา มักจะมีชาวบ้านออกมาประท้วงไม่เห็นด้วยกับโครงการ เพราะเกรงว่าตัวอำเภอนางรอง ซึ่งจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาแวะ จะทำให้การค้าขายไม่ดีเหมือนที่เป็นอยู่
คุณเสาวภา มณีเย็น วิศวกรโยธาชำนาญพิเศษ กรรมการและวิศวกรกำกับด้านงานทางและผู้จัดการโครงการ สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง กล่าวว่าอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเมืองที่มีอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจสูง เนื่องจากมีการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ความต้องการเดินทางในเขตเมืองนางรองสูงมากยิ่งขึ้น จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงข่ายถนนเพื่อรองรับปัญหาการจราจรและขนส่งในอนาคต
ซึ่งจากการสำรวจสภาพพื้นที่ปัจจุบันของเมืองนางรอง พบว่า มีเพียงทางหลวงหมายเลข 24 เป็นถนนสายหลักเพียงเส้นทางเดียว โดยทั้งสองฝั่งถนนมีกิจกรรมการค้า และสถานที่ราชการจำนวนมาก อีกทั้งมีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจรบริเวณจุดตัดทางแยกในระยะห่างเพียง 1-2 กิโลเมตร จำนวน 5 ทางแยก จึงทำให้การจราจรในตัวเมืองนางรองติดขัด
กรมทางหลวง จึงได้ดำเนินการว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท เอ 21 คอนซัลแตนท์ จำกัด สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง และบริษัท ลูเซ่ ครีเอชั่น จำกัด ดำเนินการศึกษาโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองนางรอง (ด้านใต้) โดยมีวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อดำเนินการออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) ประมาณราคาค่าก่อสร้าง และเพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) ตลอดแนวเส้นทางโครงการ โดยมีระยะเวลาการศึกษาโครงการทั้งหมด 450 วัน
สำหรับแนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 24 และมีจุดสิ้นสุดโครงการที่ ทางหลวงหมายเลข 218 ระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตร โดยแนวเส้นทางโครงการอยู่บริเวณ ตอนใต้ของเมืองนางรอง
มีลักษณะเป็นพื้นที่สูงสลับกับภูเขาทางตอนใต้ มีการกระจายตัวของชุมชนบริเวณริมทางหลวง สลับกับพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่โล่งเป็นส่วนมาก ครอบคลุมพื้นที่ศึกษาเส้นทางโครงการตามแนวสายทางในอำเภอนางรองทั้ง 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลนางรอง ตำบลหนองโบสถ์ ตำบลสะเดา ตำบลถนนหัก และ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ทั้ง 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลเจริญสุข และตำบลอีสานเขต
ส่วนแนวคิดในการออกแบบทางเลี่ยงเมืองนางรอง จะให้ความสำคัญแก่การปรับแนวเส้นทางหลักเพื่อเลี่ยงเมือง ลดปัญหาจุดตัดระหว่างแนวเส้นทางโครงการกับถนนขนาดเล็ก เชื่อมต่อพื้นที่ชุมชนด้วยการยกระดับทางหลักเป็นสะพานบก และเกาะกลางแบ่งทิศทางการจราจร เพื่อให้ชุมชนโดยรอบสามารถเดินทางเชื่อมต่อระหว่าง 2 ฝั่งของโครงการได้ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการในพื้นที่เวนคืนเขตทางกว้างประมาณ 60 เมตร โดยกำหนดเส้นทางเลี่ยงเมืองให้เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร มีความกว้างช่องละ 3.50 เมตร
นอกจากนี้ จัดให้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ตั้งแต่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพื่อให้การดำเนินงานโครงการเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่น้อยที่สุด จะดำเนินการศึกษาจากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการข้างละ 500 เมตร สำหรับแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี จะศึกษาในระยะ 1 กิโลเมตร ภายหลังการประชุมครั้งนี้ กรมทางหลวง จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน
นางลาวัลย์ เรือโป๊ะ อายุ 56 ปี เลขที่ 31 ม 5 บ้านผักหวาน ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เกษตรกรในหมู่บ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ขัดข้อง เนื่องจากเป็นการลดอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ และคาดว่าภาพโดยรวมจะทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น รองรับเมืองท่องเที่ยว ที่จะเชื่อมสนามบินนานาชาติ ที่บุรีรัมย์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: