ตำรวจ สภ.นางรอง บุรีรัมย์ ตามจับมาครบ 12 คน วัยรุ่นก่อเหตุปาระเบิดใส่รถกู้ภัยขณะไปรักษาความปลอดภัยให้วัยรุ่นหลังงานกาชาดนางรอง กู้ภัยเจ็บใจไม่หายระเบิดเกือบเจาะหัว ตำรวจปลอบทั้งสองฝั่ง บันทึกประวัติพร้อมติดตามผล ให้วัยรุ่นขอโทษกู้ภัย พร้อมกราบรถตู้ที่โดนระเบิด เพราะเป็นรถที่ช่วยเหลือประชาชนมาเป็นจำนวนมาก
วันที่ 6 ก.พ.66 กรณีรถตู้ของหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ บุรีรัมย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ปาระเบิดใส่จนรถได้รับความเสียหาย ระหว่างทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง อ.นางรอง ด้วยการขับรถเปิดไฟวาบ ๆ ไปตามจุดสุ่มเสี่ยงและป้องปราม หลังงานเลิก
เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่นในงานกาชาดประจำปีของ อ.นางรอง ตามโครงการ”ส่งน้องกลับบ้าน”เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวัยที่ 5 ต่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถควบคุมตัววัยรุ่นอายุ 17-19 ปีได้มาจำนวน 4 คน ที่เหลือจอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นมาได้อีก 8 คนรวม 12 คน อายุตั้งแต่ 15-19 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยมีผู้ปกครองวัยรุ่น ต่างเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของบุตรหลาน ท่ามกลางใจจุดใจจ่อว่าบุตรหลานจะถูกดำเนินคดีหนักหรือไม่
สอบถามวัยรุ่นทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้เอารถเบิดขว้างใส่รถกู้ภัยจริง เป็นระเบิดแบบกระแทก ทำกันเอง เพราะไม่พอใจและคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ พยายามไล่ออกมาจากงานกาชาด แต่ไม่ได้ยิงปืนใส่กู้ภัย เพราะไม่มีปืน มีเพียงแท่งเหล็กที่ตัดมาทำคล้ายเหมือนปืนปากกาเพื่อเอามาไว้ขู่คู่อริหากเกิดมีเรื่องกัน
นายวรบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล หัวหน้ากู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้กู้ภัยไม่เคยเจอมาก่อน คนส่วนใหญ่เมื่อเห็นรถกู้ภัยจะดีใจ เพราะไม่คิดทำร้ายใคร ตรงกันข้ามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกรูปแบบ ยอมรับว่าแค้นใจไม่หายเพราะวิถีสะเก็ดระเบิดตรงกับหัว จนท.กู้ภัยพอดี แต่สะเก็ดระเบิดไปโดนกล่องเครื่องมือแพทย์ซึ่งทำเป็นไม้ ทำให้สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปไม่ถึง
ต่อมา พ.ต.อ.กำพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง อ.นางรอง ได้ลงมาเจรจาเป็นตัวกลางให้กับทั้งสองฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดกระแสต่อต้านกัน ประกอบกับอีกกลุ่มเป็นเยาวชน เบื้องต้นเพื่อเป็นการปลอบใจหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ให้เยาวชนทั้ง 12 คนไปกราบรถตู้ของหน่วยกู้ภัย เพราะถือว่ารถคันนี้ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนมาเป็นจำนวนมาก ตามคำพูดของหน่วยกู้ภัย และให้ขอโทษหน่วยกู้ภัยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางคดีตำรวจก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาร่วมกันกับพวก ”พกพาอาวุธมีดไปในเมืองไม่มีเหตุอันสมควรและทำให้เกิดเสียงดัง หรือกระทำการอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจและเดือดร้อน”
ผกก.สภ.นางรอง กล่าวด้วยว่า งานกาชาดนางรองให้เข้าฟรี แต่ภายในเวทีคอนเสิร์ต จะต้องซื้อบัตรเข้า แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่มีเงินซื้อตั๋วเข้าดูคอนเสิร์ต จนท.จึงให้ไปอยู่ในที่สว่างเพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาท จุดนี้ซึ่งอาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจเจ้าหน้าที่ประกอบกับการคึกคะนองของวัยรุ่นจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: