วงจรปิดชัด ชาวบ้าน ต.โคกกลาง ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ วอนตามล่าคนร้าย ย่องขโมยไปตัดผ้าไหมที่ทอยังไม่เสร็จคากี่ทอผ้า คืนเดียวหลายราย โอดเสียดายผ้าไหมทำด้วยมือ คาดเป็นโจรกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุหลายพื้นที่ เผยเป็นการทำลายวิถีชาวบ้านที่มีมานาน วอนตำรวจล่าตัว
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากมีคนร้ายแอบมาตัดผ้าไหมที่อยู่ระหว่างการทอตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน มีชาวบ้านถูกตัดไปหลายราย
ตรวจสอบหนึ่งในผู้เสียหาย นาง นิกรณ์ บ่อไทย อายุ 49 ปี บ้าน 26 ม.9 ต.โคกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนเองตั้งกี่ทอผ้าไว้หน้าบ้าน เป็นการทอผ้าด้ายทำเป็นผ้าถุง วางด้ายในกี่ทอผ้าความยาวทั้งหมดประมาณ 30 เมตร ทอเป็นผ้าแล้วประมาณ 5 เมตร ปรากฏว่าตอนเช้า พบว่าผ้าที่ทอเสร็จแล้ว 5 เมตรถูกตัดเอาไปทั้งหมด มูลค่าประมาณ 2,000 บาท ทิ้งด้ายที่ยังไม่ทอไว้คากี่ทอผ้า
จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หลังจากนั้นมาทราบอีกว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้านถูกตัดผ้าเช่นเดียวกันอีกหลายคน บางคนเป็นผ้าไหม บางคนเป็นด้าย การกระทำดังกล่าวของคนร้ายถือว่าใจดำ เพราะกว่าชาวบ้านจะทอผ้าออกมาได้ทีละผืนมาใช้เวลา ลงทุน ลงแรง แต่ต้องมาถูกขโมยแบบนี้ จึงอยากจะให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
นางนิกรณ์ กล่าวด้วยว่า ปกติชาวบ้านจะไม่เก็บฟืมทอผ้าไว้ ในเวลากลางคืน เพราะเสียเวลาจะต้องเอามาติดใหม่ในตอนเช้า จึงปล่อยให้ติดไว้กับกี่ทอผ้านอกบ้านหรือใต้ถุนบ้าน จนกว่าจะทอเสร็จ ให้มีความยาวประมาณ30 เมตร ค่อยตัดทีเดียว
นาย สมาน นาควิเศษ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 21.43น. ของวันที่ 19 ส.ค.66 ที่ผ่านมา พบว่าเห็นมีบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย มากัน2 คน อายุประมาณ 30-40 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปทางบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ขี่รถออกมา และหอบของบางอย่างออกมาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นผ้าไหมที่ถูกขโมยไป อย่างไรก็ดี ทางผู้นำก็ได้ประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าบ้านไหนพอที่จะติดกล้องวงจรปิดได้ ก็อยากให้ติดเพื่อป้องกันคนร้ายอาจกลับมาก่อเหตุซ้ำ ส่วนตัวคิดว่าการก่อเหตุของคนร้ายดังกล่าวถือเป็นการทำลายวิถีชาวบ้านที่สืบทอดกันมายาวนาน คือการทอผ้า เพราะหลังจากนี้อาจจะไม่มีใครอยากทอผ้าอีกหากมีคนแอบมาขโมยแบบนี้
สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว ได้เกิดขึ้นในหลายอำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของกลุ่มแม่บ้านทอผ้าไหม หรือพื้นที่ผลิตสินค้าโอท็อป แต่ยังไม่มีใครจับตัวคนร้ายได้
