ผอ.โครงการชลประทานบุรีรัมย์ มั่นใจ มีน้ำอุปโภค – บริโภคเพียงพอ ถึงแม้จะเกิดปรากฏการณ์แอลนีโญ ส่วนระยะนี้ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์พื้นที่ลุ่มต่ำท่วมซ้ำซากอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีมวลน้ำจากจังหวัดใกล้เคียงไหลเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนลงแม่น้ำมูล
วันนี้ (17 ต.ค. 66) นายราเมศ พวงพรหม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการชลประทานบุรีรัมย์ ได้มีการเตรียมแผนการรองรับปรากฏการณ์แอลนีโญ ที่อาจจะสร้างภาวะการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ได้ โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีอ่างเก็บน้ำสำคัญสำหรับการอุปโภคบริโภค 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำจระเข้มากและอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ที่จะต้องมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ และมีการใช้น้ำช่วงปกติอยู่ที่ 40,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝน ทางโครงการชลประทาน ได้ผันน้ำจากสถานีสูบน้ำลำปลายมาศเข้ามาเติมที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดได้มีการผันน้ำจากห้วยสวาย จนปัจจุบันทั้ง 2 อ่าง มีปริมาณน้ำเต็มอ่าง 100% แล้ว ทั้งนี้เพื่อให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงใช้ในการจัดกิจกรรมที่เกิดขึ้นในจังหวัดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะงานระดับโลกอย่าง MOTO GP 2023 และ Buriram marathon 2023 ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ และคาดว่าจะมีการใช้น้ำถึง 45,000-50,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แต่สำหรับภาคการเกษตร ยังคงต้องใช้น้ำอย่างประณีต ปลูกข้าวนาปีเป็นหลัก รวมถึงขอให้แต่ละพื้นที่มีการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย เนื่องจากเป็นการใช้น้ำจากฝนที่ตกในพื้นที่
อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่าของจังหวัดบุรีรัมย์มีจุดเฝ้าระวังทั้งหมด 30 จุด มีลุ่มน้ำสำคัญอยู่ที่ ลุ่มน้ำลำปลายมาศ ลุ่มน้ำชีน้อย และลุ่มน้ำมูล ที่ขณะนี้มีการผันน้ำมาจากโคราช โดยเฉพาะกลุ่มชาวนาที่เริ่มผันน้ำออกจากนา เนื่องจากข้าวอยู่ในระยะตั้งท้อง ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำลำปลายมาศ ที่ตอนนี้มีเริ่มเต็มตลิ่ง จึงต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ มีการเตรียมบุคลากร กำลังพลและเครื่องจักรกลเตรียมช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
ด้านนายกันตสิษฐ์ ธนพนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลกลาง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลำมูลตอนบนในช่วงที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อยทำให้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เก็บน้ำได้เพียง 60% ส่วนใหญ่ฝนจะตกที่ลำมูลตอนกลาง ที่ต้องรับน้ำจากลำน้ำสาขา จากลำปลายมาศ ลำนางรองและลำสะแทด ผ่านอำเภอเมืองยาง ของจังหวัดนครราชสีมาก่อนเข้าสู่อำเภอแคนดง และอำเภอคูเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์
ซึ่งตอนนี้ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ที่ 2-3 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องทำการระบายน้ำไปยังลำมูลตอนล่างที่อำเภอชุมพลบุรี และอ.รัตนบุรี ของจังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม./วัน ก่อนปล่อยไปยังเขื่อนราศีไศล คาดว่าระดับน้ำมูลจะเพิ่มขึ้นถึงช่วงปลายเดือนตุลาคม และจะลดระดับลงในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ก่อนเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 เครื่อง เตรียมช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ติดลำน้ำมูลและลำน้ำชีที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: