พ่อวัย 68 บ่นให้ลูกชายวัย 33 ทุกครั้งที่ “กินแล้วไม่ล้างจาน” ครั้งนี้ขัดจังหวะการดูมวย ลูกลุกขึ้นคว้าอีปีกหรืออีเตอร์ฟันหัวพ่อล้มทั้งยืน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้วเอาอีเตอร์ไปทิ้งลำห้วย แล้วหลบหนีไป ตำรวจตามจับมาทำแผนเข้ากราบศพพ่อทั้งน้ำตา
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 พ.ต.ต. ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายอุทัย หรือทูน มากชุมแสง อายุ 33 ปี ชาว ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากเมื่อเวลา 19.00 น.(4 ม.ค.)นายอุทัย ได้ก่อเหตุใช้อีปิกหรืออีเตอร์ (ไว้สำหรับขุดดินหรือหิน)ฟันที่ศีรษะนายบุญถึง มากชุมแสง อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองจนเสียชีวิต ภายในบ้าน แล้วหลบหนีไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายทูน ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำพ่อตัวเองจริง สาเหตุเพราะไม่พอใจที่พ่อมักจะบ่นให้เป็นประจำว่าไม่ล้างจานหลังกินข้าวเสร็จ ปล่อยให้พ่อแม่ล้างให้ทุกครั้ง ยอมรับว่าอารมณ์เสียโดยเฉพาะพ่อมาบ่นให้ตอนที่ตนกำลังดูมวยในทีวีจึงเกิดอาการหน้ามึดคว้าอีปิกที่อยู่ใกล้มือไปฟันพ่อดังกล่าว หลังก่อเหตุสำนึกผิดเพราะไม่คิดว่าพ่อจะเสียชีวิต จึงเอาอีปิกไปทิ้งลำห้วยแล้วเดินเลาะไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งตำรวจตามมาจับกุมดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
โดยช่วงหนึ่งของการทำแผน ตำรวจได้พามากราบศพพ่อที่ตัวเองเป็นคนฆ่า ทำให้แม่ซึ่งรับสภาพไม่ได้ ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ เพราะผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตคือคนในคอรบครัว
สอบถามนางจีราภรณ์ มากชุมแสง อายุ 68 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่าสามีมักจะบ่นให้ลูกชายเป็นประจำเรื่องไม่ล้างจาน ครั้งนี้ลูกชายไม่พอใจมาก ตนพยายามจะเข้าไปห้าม บอกว่าไม่เป็นไร“แม่จะล้างเอง”ยิ่งทำให้สามีไม่พอใจ คว้าท่อนไม้หวังจะเอาไปตีลูกตนเข้าไปขวางจึงถูกไม้ตีหัวได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์เริ่มชุลมุน ลูกชายได้คว้าเอาอีปิก มาทำร้ายพ่ออีกที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่โทษใคร ถือว่าเป็นเวรกรรม
หลังทำแผนฯ ชุดสืบสวนส่งตัวนายทูน ให้พ.ต.ต.ศักชาย กิตติอุดมพันธ์ พนักงานสอบสวนไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นตรวจตั้งข้อหานายอุทัย มากชุมแสงฐาน “ฆ่าบุพการีโดยเจตนาและทําร้ายร่างกายบุพการีเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: