บุรีรัมย์ ปิดฉากมหกรรม เดินวิ่งปั่นปลูก ต้านยาเสพติด มั่นใจจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ (มีคลิป)

ปิดฉาก 3 วันงานเดิน วิ่ง ปั่น ปลูก เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวและ ต้านยาเสพติด ประธานจัดงานมั่นใจโครงการต้านยาเสพติดทำได้บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน เชื่อเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ หมู่บ้านสีขาว อำเภอสีขาว เป็นไปได้ ตัวอย่างปลูกป่าทำมาแล้ว 2 แสนต้นไม้โตครบ 100 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 25 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ได้มีการจัดงานมหกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ปลูก หาเงินสมทบมูลนิธิอาณัตพลซารัมย์(ลูกเติ้ง)เพื่อหางบประมาณในการต่อต้านยาเสพติดในเขต อ.ลำปลายมาศ และอำเภอใกล้เคียง

การจัดงานดังกล่าวได้จัดขึ้น 3 วัน คือวันที่ 22-24 มิ.ย.67 นอกจากจะมีการเดินเพื่อการกุศล การแข่งขันวิ่ง แข่งขันจักรยานแล้ว ยังมีกิจกรรมอีกหลากหลายทั้งการส่งเสริมการศึกษา การส่งเสริมอาชีพ โดยเฉพาะในวันที่ 24 มิ.ย.ได้ร่วมการปลูกป่าแห่งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติให้กับพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสครบ 6 รอบ 72 พรรษา

นายโสภณ ซารัมย์ ที่ปรึกษาประธานมูลนิธิอาณัตพลซารัมย์ กล่าวว่าโครงการต่อต้านยาเสพติด ตอนนี้ได้ทำมาแล้ว 2 เดือน ตอนนี้ประชาชนเริ่มตื่นตัวเพราะเราปลุกเร้าทุกาฝ่าย ทั้งข้าราชการและภาคเอกชน เบื้องต้นจะต้องมีโรงเรียนสีขาว หมู่บ้านสีขาวนำร่องให้ได้ ให้เห็นเป็นที่ประจัก ไม่มีการสร้างภาพ มีการตั้งเป้าให้หน่วยงานที่ร่วมโครงการแล้วว่า”ถ้าเราจริงใจและโปร่งใส”ประชาชนจึงจะร่วมมือ

นายโสภณ กล่าวอีกว่าสำหรับการปลูกป่า เราเริ่มปลูกมาประมาณ 5 ปี ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระกนิษฐาฯกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯว่าสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ ตอนนั้นปลูกในนามชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน จากนั้นได้ปลูกเพิ่มสาขามาอย่างต่อเนื่องรวมแล้ว 9 สาขา รวมกับครั้งนี้เป็นสาขาที่ 10

เมื่อสอบถามว่านายโสภณ ว่าเป็นสร้างภาพเพื่อทางการเมืองหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่าสร้างภาพหรือไม่ต้องไปดูป่าที่ปลูกไว้ทั้ง 9 สาขาหรือประมาณ 200,000 ต้น ว่าเป็นอย่างไร เพราะเรามีคอนเซ็ปต์ว่า ต้นไม้ทุกต้นที่ฝังลงดินไป”ต้องเกิด”ไม่มีการปลูกถ่ายภาพแล้วเดินหนีเหมือนหน่วยงานอื่นๆบางหน่วยงานที่มักจะทำกัน

ขณะที่นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ บอกว่า ครั้งแรกที่จะทำโครงการปลูกป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยขี้หนู ติดกับเทศบาลซึ่งมีพื้นที่รกร้างว่างเปล่า

ได้มีชาวอำเภอลำปลายมาศ ส่วนหนึ่งออกมาคัดค้านว่าเป็นไปไม่ได้ เสียเวลา เสียงบประมาณ นายกฯหรือผู้สนับสนุนเอาสมองส่วนไหนมาคิด แต่ได้แค่รับฟังเพราะเราตั้งใจและเคยทำประสบความสำเร็จมาแล้ว เพราะมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้

ล่าสุดคนที่ค้านผ่านการโพสต์ตอนเริ่มโครงการ ต้องยอมว่าเราว่าทำได้จริง ทั้งที่ผ่านมาแค่ 2 ปีเท่านั้น ทุกชุมชนที่รับผิดชอบโซนต้นไม้ที่แบ่งกันไว้ ต่างออกมาดูแลป่าด้วยความเต็มใจโดยไม่ต้องบอก ตอนนี้ชุมชนยอมรับแล้ว …นางอารีญาภรณ์ กล่าว