ยายวัย 66 ปี ที่ประกาศขายตู้เย็น 1,000 บาท เพื่อเอาไปจ่ายค่าไฟฟ้า 95 บาท และค่าน้ำอีก 75 บาท จากนั้นได้มีภรรยาชาวต่างชาติมาช่วยเหลือเอาเงินให้ 1,000 บาท พร้อมเอาอาหารไปให้ ล่าสุดทั้งการไฟฟ้า ฝ่ายปกครอง ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว ขณะค่าไฟฟ้ามูลนิธิฯ สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหารในพระบรมราชูปถัมภ์ จะช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าให้ทุกเดือนหลังจากนี้
วันที่ 24 ก.ค.67 หลังนางแพง ยี้รัมย์ อายุ 66 ปี อยู่เลขที่ 14 ม.10 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตกเป็นข่าวที่ให้หลานประกาศขายตู้เย็นผ่านเฟสบุ๊คในราคา 1,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าที่ขายเพราะยายจะเอาไปจ่ายค่าไฟฟ้า 95 บาท ที่ถูกการไฟฟ้ายกหม้อมิเตอร์ไป และค่าน้ำ 75 บาท
โดนดังกล่าวนอกจากจะดูแล้วอยากซื้ออุดหนุนแล้ว ยังมีคนเห็นโพสต์อีกหลายคนเห็นใจและสงสาร ที่ยายต้องเลี้ยงหลานอายุ 3 ขวบ และ 4 ขวบรวม 2 คนตามลำพังอีกด้วย
ต่อมาได้มีนางพรชิตา โคตรพัฒน์ อายุ 41 ปี อยู่เลขที่ 39/2 ม.10 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ภรรยาชาวต่างชาติ ได้ติดต่อขอช่วยเหลือนางแพง ด้วยการรับซื้อตู้เย็น 1,000 บาท แต่ไม่ขอรับตู้เย็นไป พร้อมกับนำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วยเหลือส่วนหนึ่ง
ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหลายหน่วยงานลงพื้นที่มาสอบถามและหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าลงพื้นที่ตรวจสอบภายในบ้าน พบว่ามีการเชื่อมต่อสายไฟไม่ถูกต้อง จะเข้ามาแก้ไขให้ ส่วนค่าไฟฟ้า 95 บาทแล้วถูกยกหม้อมิเตอร์นั้นไม่เป็นความจริง เคยถอดมิเตอร์ 1 ครั้งตอนนั้นค่าไฟฟ้า 600 บาทแล้วไม่ไปชำระ
นางแพง เล่าว่าหม้อมิเตอร์ที่ใช้ได้พ่วงไปบ้านหลานอีกหลังหนึ่ง ตอนที่หลานไม่อยู่ค่าไฟไม่แพง แต่ถ้าหลานกลับมาบ้านค่าไฟก็แพงขึ้นสูงสุด 600 บาท ตอนนั้นถูกตัดไฟไม่มีไฟฟ้าใช้ 3 วัน กระทั่งหลานส่งเงินมาให้จึงเอาไปจ่ายได้หม้อมิเตอร์คืน
ด้าน น.ส.นางโอนชา สืบจากมี ปลัด อำเภอละหานทราย กล่าวหลังมาตรวจเยี่ยมว่า ครอบครัวนี้อยู่ในสายตาของทางอำเภอมาโดยตลอดแต่จะช่วยด้านอาหาร ไม่สามารถช่วยเหลือด้านการเงินคราวละมากๆได้ ตอนนี้ได้ประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.)ให้ดูแลด้านการช่วยเหลือ เท่าที่ทราบหน่วยงานจะช่วยได้ครั้งละไม่เกิน 3,000 ปีละไม่เกิน 3 ครั้งหรือปีละไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งตอนนี้ได้ผ่านกระบวนการแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะเรียบร้อย
และล่าสุดมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหารในพระบรมราชูปถัมภ์ ขออุปถัมภ์ค่าไฟชำระค่าน้ำทุกเดือนจากนี้เป็นต้นไป ให้กับครอบครัวของนางแพง โดยจะมีคณะกรรมการมาเข้าตรวจสอบเป็นระยะ
