ตำรวจรวบแล้ว นายเพลิน หรือไอ้ยาว 43 ปี ลุงที่หลอกเด็กนักเรียน 17 ปีขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งแล้วบังคับให้เข้าป่าอ้อยหวังข่มขืน เด็กมาชี้ตัวแม่นยำ เจ้าตัวรับเอามอเตอร์ไซค์ไป แต่เสียงแข็งไม่ได้หวังข่มขืนเด็กวิ่งหนีไปหารถคันอื่นเอง ส่วนรถเอาไปจอดร้านก๋วยเตี๋ยวที่สุรินทร์แล้วย้อนมาบุรีรัมย์ เผยเคยติดคุกคดีลักทรัพย์
วันที่ 29 ก.ค.67 ตำรวจเจอตัวแล้วที่สถานีขนส่งนางรอง อ.นางรอง นายเพลิน หรรือยาว ติมานพ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 6 ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ที่สถานีขนส่ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะกำลังนอนอยู่ชาลชราของสถานีขนส่ง ก่อนจะเข้าจับกุมนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ประโคนชัย ต้นเรื่อง
หลังจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค.เวลาประมาณ 17.00 น.ได้ก่อเหตุหลอก น.ส.ชมพู่ อายุ 17 ปี ที่นั่งเล่นกับเพื่อนรวม 3 คน อยู่ริมบึง “หนองระแซซัน”ในเขตเทศบาลประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แล้วหลอกให้ น.ส.ชมพู่ ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งบริเวณนั้นแต่กลับบังคับให้ขับออกนอกเส้นทางไกลกว่า 10 กม. และพยายามจะข่มขืนในป่าอ้อยริมทาง แต่เด็กหนีเอาตัวรอกมาได้
จากนั้นได้มีการประกาศตามล่าตัว “ไอ้ยาว”หลายช่องทาง เนื่องจากนายยาว ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ชอบอาศัยหลับนอนตามศาลาข้างทาง บขส.เพื่อหาเหยื่อที่จะก่อเหตุรายใหม่ ในลักษณะเดียวกันกับน้องชมพู่
จนล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ชุดสืบสวนทราบว่า คนร้ายหลบหนีมาในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และเตรียมตัวจะขึ้นรถประจำทางหลบหนี จึงกระจายกำลังลงพื้นที่ จนไปพบคนร้าย เป็นชายลักษณะคล้ายนายเพลิน นอนหลับด้วยความเพลีย อยู่บริเวณที่นั่งผู้โดยสาร บขส.อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ประโคนชัย ต้นเรื่อง ตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบว่า เพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์มาได้ไม่นาน และมีคดีติดตัวอีกหลายคดี โดยนายเพลิน หรือยาว ยอมรับว่าได้เอารถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารุ่นเวฟ ทะเบียน 1กฬ-4552 บุรีรัมย์ไปจริง ตอนนี้จอดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว อ.สีขรภูมิ จ.สุรินทร์
นายเพลิน ให้การแบบเสียงแข็งว่า เอารถไปจริง แต่ไม่ได้หมายจะข่มขืน เด็กขับรถเข้าป่าอ้อยเอง เมื่อไปถึงเด็กวิ่งหนีไปหารถอีกคันเอง ตนไม่มีอาวุธ ไม่มีระเบิดตามคำกล่าวหาของเด็ก
นายเพลิน ให้การอีกว่า หลังก่อเหตุได้ขี่รถไปจังหวัดสุรินทร์ แล้วเอารถไปจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว จากนั้นได้นั่งรถไฟมาลงที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั่งรถตู้มาอำเภอนางรอง หวังจะไปทำงานกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดยืนยัน”ตนไม่ได้คิดจะข่มขืนเด็ก”
ต่อมาได้มีเด็กและผู้ปกครองและชาวบ้านที่ทราบข่าวมาดูหน้ายืนยันว่าเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุคุกคามตามที่ต่างๆในเขตเทศบาลประโคนชัย ในวันนั้น โดยเฉพาะพ่อน้องชมพู่ บอกว่าดีใจที่จับได้และอยากได้รถคืน
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์เอาไว้ก่อน หากพบหลักฐานเพิ่มเติมหลังสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มโดยเฉพาะคดีพรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: