ลุงวัย 55 ปี เอาเบ็ดไปวางในลำห้วยตั้งแต่ตอนเย็น เช้ามาหวังไปเก็บปลามาทำกับข้าวเช้า แต่ไม่กลับชาวบ้านไปพบกลายเป็นศพจมน้ำอยู่ริมห้วย ลูกชายเชื่อพ่อเป็นตะคริว แล้วช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำให้ทรุดเอาหัวจุ่มน้ำจนเสียชีวิต ญาติเผยลางก่อนเสียชีวิต
วันที่ 30 ส.ค. 67 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชนะมาร เต็มปักษี สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านมีคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณลำห้วยก้านเหลือง ท้ายบ้านบัวทอง หมู่ที่ 18 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดอ.คูเมือง เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุศพนายสมทรง นพวัฒน์ อายุ 55 ปีชาว.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตอยู่ข้างฝั่งลำห้วย ในลักษณะศรีษะจุ่มลงไปในน้ำ ข้างศพพบแกลอนน้ำมันไว้สำหรับพยุงตัวระหว่างลอยน้ำ จำนวน 4 ใบ และพบเบ็ดราว มีปลาหมอติดอยู่ในเบ็ดจำนวน 1 ตัว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย
สอบถามนายพิทักษ์ นพวัฒน์ อายุ 26 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตเล่าว่า ปกติพ่อจะออกไปหาปลาเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงหน้าน้ำหลาก โดยจะออกไปวางเบ็ดในตอนเย็น พอรุ่งเช้าจะออกไปเก็บเบ็ด และปลาที่ติดเบ็ด
เช่นเดียวกับตอนเช้าวันนี้ พ่อออกไปเก็บเบ็ดและปลาตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อจะนำมาประกอบอาหาร แต่ไม่ยอมกลับบ้าน ตนเองเตรียมจะออกไปตามหา แต่มีชาวบ้านมาแจ้งก่อนว่าพ่อจมน้ำเสียชีวิตที่ลำห้วยดังกล่าว
ส่วนสาเหตุส่วนตัวคาดว่าพ่อน่าจะเป็นตะคริวระหว่างลงน้ำ ประกอบกับ พ่อมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน มีความเป็นไปได้ที่ช่วงนั้นเบาหวานขึ้นแล้วเกิดอาการวูบหมดสติ แล้วจมน้ำดังกล่าว ซึ่งตนเองเคยเตือนพ่อแล้วแต่พ่อไม่ฟังยังออกไปหาปลาเหมือนเดิม
ด้านนายปรีชา ปักเคทัง อายุ 65 ปี มีศักดิ์เป็นลุงคนตายเล่าว่า ก่อนหน้านี้มีอีกา มาเกาะอยู่หน้าบ้านแล้วส่งเสียงร้องลั่น ตอนนั้นคิดว่าว่าจะต้องมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนายสมทรง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: