ตำรวจรวบหนุ่มวัย 31 ปี ตระเวนงัดบ้านเรือน ร้านค้าหลายหลัง หนึ่งในนั้นเป็นร้านที่แฟนสาวทำงานอยู่ สำนึกเขียนข้อความฝาก “I’m sorry ผมไม่อยากทำ(จำเป็น)ผมต้องการแค่เงิน ที่เหลือไม่แตะครับ วันน่าผมจะใช้คืนนะครับ T^T” เจ้าตัวสารภาพต้องการเงินไปซื้อนมให้ลูกวัยขวบเศษกิน
วันที่ 2 ก.ย.67 พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก. สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำตัวนายวิทวัธ หรืออุ่น แหลมหลาว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 10 ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังมีผู้เสียหายแจ้งความถูกคนร้ายงัดร้านหลายร้านในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์
โดยนายอุ่น ได้ชี้จุดที่งัดร้านจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องมือช่างหลายรายการ จากนั้นได้ไปชี้จุดที่เข้าไปขโมยเงินสดภายในร้านพิชซ่า อิตาลี ถนน.อินจันทร์ณรงค์ บ้านเลขที่ 40/45 ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ สถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ จัดงานวันดินโลก 2567 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชการที่ 9
- บุรีรัมย์ สภ.ถาวร เริ่มตั้งด่าน “ จับเพราะรัก อยากให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย” รณรงค์ความปลอดภัยช่วงปีใหม่
- บุรีรัมย์ จัดกิจกรรมวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2568
- เด็กไทยเจ๋ง! วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง บุรีรัมย์ คว้าแชมป์หุ่นยนต์ยุวชนโลก คว้า 2 ทอง-โล่ชนะเลิศ
ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่แฟนสาวของนายอุ่น เคยทำงานอยู่จึงรู้จุดที่เก็บเงิน ได้โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง หมวกกันน็อค 2 ใบ และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 27,000 บาท ซึ่งคาดว่าน่าจะสำนึกผิดที่เจ้าของร้านเคยดีกับแฟนสาว จึงเขียนข้อความว่า”I’m sorry ผมไม่อยากทำ(จำเป็น)ผมต้องการแค่เงิน ที่เหลือไม่แตะครับ วันน่าผมจะใช้คืนนะครับ T^T”
นายอุ่นให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่เข้าไปงัดร้านเพราะต้องการเงินเอาไปซื้อนมเลี้ยงลูกวัยขวบเศษ ส่วนเครื่องมือช่างที่ได้มาจะเอาไปโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก ได้เงินมาเอามาใช้จ่ายภายในครอบครัวเพราะตกงาน ยอมรับว่าสงสารเจ้าของร้านพิชซ่าอิตาลี เพราะทั้งแฟนเจ้าของร้านที่เป็นชาวต่างชาติและเจ้าของร้านเป็นคนดี แต่จำเป็นต้องใช้เงิน
ณะที่ นางสาว สมจริง นามเขต อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน พิชซ่าอิตาลี เล่าว่าหลังจากมีคนงัดร้าน เบื้องต้นรู้ผู้ต้องสงสัยทันทีว่าน่าจะเป็นแฟนของลูกน้องที่ทำงานในร้าน เพราะมีการเขียนจดหมายเหมือนสารภาพบาปเอาไว้
แต่ก็ไม่ควรเพราะเงินที่ได้ไปเป็นเงินเก็บของลูกสาวที่ต้องการจะเอาไปซื้อของที่ตัวเองรัก เพราะตนได้ให้สัญญากับลูกถ้าเก็บเงินได้เองจะซื้ออะไรแม่ไม่ว่า ส่วนโน้ตที่เขียนไว้ว่าจะเอาแค่เงิน แต่ไม่ใช่เอาทั้งโทรศัพท์และหมวกกันน็อค ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งเพราะคนรู้จักกัน
ด้าน พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งทางตำรวจได้นำเนินการแกะรอยทันที จนทราบเบาะแสและรู้ที่อยู่ชัดเจนจึงตามไปจับกุม ทั้งนี้โครงการหนึ่งที่อยากจะฝากไปถึงประชาชนคือโครงการ”เพื่อนบ้านเตือนภัย”ของตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลกันเป็นการเบื้องต้นถ้ามีเบาะแสให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจจะเข้าไปทำงานในทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: