ญาติหนึ่งใน 4 ที่เสียชีวิตล่าสุดจากความไม่สงบที่อิสราเอล เศร้าหลังทราบข่าวร้าย ภรรยาระบุจำเป็นต้องไปทำงานรอบสองเพราะหนี้สิน ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเพราะเป็นเสาหลัก เผยก่อนทราบข่าวร้าย 3 วันฝันเลือดท่วมตัวไปสะเดาะเคราะห์แล้วแต่เอาไม่อยู่
วันที่ 1 พ.ย.67 หลังเจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดรายงานข่าวมีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดโจมตีเข้ามาในภาคเหนือของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในนิคมเกษตรกรรมใกล้กับเมืองเมตูลาและเมืองไฮฟาว่า ในจำนวนนี้มีแรงงานไทย ทำงานในสวนแอปเปิลใกล้กับเมืองชายแดนเมตูลา เสียชีวิต 4 ราย
ข่าวดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับครอบครัวของนายประหยัด พิลาศรัมย์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 129/1 บ้านหนองพลวง ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หนึ่งใน 4 ของผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงาน มีนายยศ พิลาศรัมย์ อายุ 70 ปี ,นางรน พิลาศรัมย์ อายุ 70 ปี พ่อแม่ผู้เสียชีวิต ,นางสุลาภรณ์ รุ่งเรือง อายุ 45 ปี พี่สาว และ น.ส.ประไพ บุหงา อายุ 40 ปี ภรรยานายประหยัด
โดยบรรยากาศที่ ได้มีชาวบ้าน และญาติพี่น้องที่ทราบข่าว เดินทางแสดงความเสียใจพร้อมทั้งผูกแขนให้กำลังใจครอบครัวนายพิลาศ เป็นระยะ ครอบครัวยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
น.ส.ประไพ บุหงา ภรรยานายประหยัด เล่าว่าก่อนหน้านั้นสามีเคยไปทำงานที่อิสราเอลมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 จากนั้นเกิดเหตุสู้รบทางการให้เดินทางกลับไทย เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66
หลังจากนั้นนายจ้างคนเดิม ได้ประสานมาให้ไปทำงานต่อ ตนกับครอบครัวไม่อยากจะให้ไปเพราะอันตราย แต่หนี้สินยังมีอยู่สามีจึงตัดสินใจเดินทางไปอีกครั้ง โดยการกู้เงินเพิ่มจากของเดิมอีก 50,000 บาท รวมเป็น 150,000 บาทของหนี้ทั้งหมด คราวนี้เดินทางไปเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66
น.ส.ประไพ เล่าด้วยว่าระหว่างไปทำงานสามีจะโทรศัพท์ติดต่อกันทุกวัน และมักจะเอาคลิปที่น้องชายสามีถ่ายไว้ส่งมาให้ดู บอกว่าระเบิดลอยข้ามหัวอยู่ตลอดเวลา และเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา
ตนฝันว่ามีเลือดท่วมตัวของตัวเองพยายามเช็ดแต่ไม่ออก ตื่นเช้ามาไม่ยอมบอกใคร เดินทางไปสะเดาะเคราะห์ที่วัดทันที เพราะคิดว่าตัวเองมีเคราะห์สุดท้ายกลายเป็นสามีที่รับเคราะห์แทน
น.ส.ประไพ เล่าอีกว่าตอนนี้ครอบครัวยังมีหนี้สินทั้งธนาคารที่กู้ไปทำงานและค่างวดรถที่ค้างอีกกว่า 300,000 บาท ตอนนี้อยากได้ร่างของสามีกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
ด้านนายอำนาจ เข็มเพชร รักษาราชการแทนแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าหลังทราบข่าวเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย และเพื่อเดินเรื่องต่างๆที่ครอบครัวมีความประสงค์ รวมถึงค่าเยียวยาอื่นๆที่จะทำให้รวดเร็วที่สุด ส่วนศพจะต้องได้รับการประเมินจากทางอิสราเอลก่อนว่าจะใช้เวลากี่วันที่จะส่งมา ขึ้นอยู่กับสภาพศพว่าจะต้องตรวจอัตลักษณ์กี่วัน
ทั้งนี้เบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินจากกองทุนช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศครั้งแรกจะได้รับ 15,000 บาท เงินกองทุนเยียวยา 50,000 บาท นอกจากนี้ยังจะได้เงินสถาบันเงินจากกองทุนประกันภัยแห่งชาติอิสราเอลจะเป็นเงินค่าจัดการศพประมาณ 70,000 บาท มีเงินค่าฝังศพอีก 50,000 บาท รวมถึงได้รับเงินค่าเป็นหม้ายของภรรยาอีก 70,000 บาท ยังไม่รวมเงินช่วยเหลืออื่นๆอีกซึ่งกระทรวงแรงงานจะรวบรวมอีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: