เดินหน้าโครงการรักศรัทธาแก้ไขปัญหายาเสพติด ต่อเนื่องปิดบ้านตรวจฉี่พบขนมาบำบัด ชาวบ้านแห่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านได้ไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แม่งานโครงการยืนยันเอาจริงไม่สร้างภาพ พร้อมฝากถึงรัฐฯต้องแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ น้ำท่อมผสมยาบ้าทำอย่างไร
วันที่ 26 พ.ย.67 ชาวบ้านตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ กว่า 100 คน แห่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดดำเนินโครงการ”รวมพลังรักศรัทธา แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ”ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังนำผู้ที่ถูกตรวจพบฉี่เป็นสีม่วงกว่า 80 คน ที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดหมู่บ้านตรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เข้าศูนย์บำบัดประจำอำเภอลำปลายมาศ ที่วัดจันทราวาส ต.ลำปลายมาศ
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นผลของการดำเนินโครงการที่เจ้าหน้าที่ทำอย่างจริงจัง และมีมาตรการรัดกุม โดยเฉพาะมาตรการนำผู้ที่พบฉี่สีม่วงต้องเข้าไปบำบัดที่วัดนาน 7 วันหากกลับมาเสพอีกจะต้องกลับไปเข้าโรงพยาบาลอีก และหากยังไม่เลิกจะต้องเข้าไปบำบัดกับศูนย์ใหญ่นานถึง 4 เดือน โดยระหว่างการทำกิจกรรมได้มีชาวบ้านมาร้องขอให้นำตัวหลานชายมาเข้าโครงการด้วยเพราะตอนเจ้าหน้าที่บุกตรวจหลายชายหนีได้ทัน
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ เก๋งกลับรถ รถบัสหมอลำเสียงอีสานชนสนั่น แดนเซอร์เจ็บเล็กน้อย
- บุรีรัมย์ จัดกิจกรรมวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2568
- บุรีรัมย์ สภ.ถาวร เริ่มตั้งด่าน “ จับเพราะรัก อยากให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย” รณรงค์ความปลอดภัยช่วงปีใหม่
- ตำรวจบุรีรัมย์ ยกระดับมาตรการเข้มช่วงปีใหม่ 68 เน้นความปลอดภัยและการจราจรคล่องตัว
นางสมพร จอห์สัน 54 130 หมู่ 1 บ้านแท่นพระ ตำบลหนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่าดีใจมากที่มีโครงการนี้ เพราะตอนนี้วัยรุ่นต่างผวาเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจฉี่ และจะต้องเข้าโครงการบำบัดนานถึง 7 วัน วัยรุ่นหลายคนที่เพื่อนกำลังชวนเสพต่างไม่กล้าเสพแล้ว
เช่นเดียวกับนางสำรวย อาจล้อม อายุ 50 ปี อสม.หมู่ 1 ตำบลหนองคู อ.ลำปลายมาศ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ตอนกลางคืนถึงตอนดึกจะได้ยินวัยรุ่่นแว้นมอเตอร์ไซค์แทบทุกคืน หลังจากมีโครงการนี้เสียงนั้นหายไปเป็นปริดทิ้ง จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ายาบ้าลดลงไปไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อยากจะให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปเชื่อว่าเป็นหมู่บ้านสีขาวได้แน่นอน
ด้านนายโสภณ ซารัมย์ สส.พรรคภูมิใจไทย และประธานที่ปรึกษามูลนิธิอาณัตพล ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ผู้ริเริ่มโครงการ กล่าวว่าปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาที่น่ากลัว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ครอบครัว ตามที่เป็นข่าวเป็นประจำเพราะยาเสพติดสามารถทำให้คนกลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน ฆ่าได้ทุกคนไม่เว้นพ่อแม่หรือลูกของตัวเอง
เมื่อถามว่าโครงการนี้จะเอาจริงหรือไม่เพราะชาวบ้านฝากถาม นายโสภณ กล่าวว่า ”เอาจริง” ถ้าไม่เอาจริงจะไม่ลงทุนลงแรงขนาดนี้ การสร้างภาพไม่มีแน่นอน แต่จะต้องมีหลายภาคส่วนมาร่วมกัน โครงการนี้มีทั้งตำรวจ ,ฝ่ายปกครอง,สาธารณสุข และภาคเอกชนอย่างมูลนิธิฯเป็นต้น
ส่วนหนึ่งก็อยากจะฝากถึงรัฐบาลกรณียาบ้าอยู่ในน้ำกระท่อมทำอย่างไร และหากจะเข้ามาแก้ไขปัญหายาเสพติดจะต้องแก้ไขแบบสร้างสรรค์ ต้องมีการต่อยอดให้เขาได้มีอาชีพด้วย คือทำแบบบูรณาการอย่างที่มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการ คือหลังบำบัดจะต้องมีการฝึกอาชีพและหางานให้ทำ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: