ตำรวจนำ 4 แขกขาว ไปทำแผนฯหลังมีผู้เสียหายเป็นร้านค้าเพิ่ม เผยพฤติการณ์แกล้งเป็นนักท่องเที่ยว ซื้อสินค้าร้านค้าแล้วหลอกให้งง สลับไปมา ลูกจ้างร้านเนื้อย่างยอมรับว่าไม่รู้ตัว แขกขาวพูดหลายภาษาสั่งของแล้วไม่เอา ขอเงินคืนเปลี่ยนไปมาสุดท้ายได้ทั้งเงินคืน ได้ทั้งเงินทอนและสินค้า ผกก.เผยแก๊งนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่เตรียมขยายผลหาผู้เสียหาย
วันที่ 27 พ.ย.67 ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ควบคุมตัว Mr.Muhammad Ramzan อายุ 35 ปี,Mr.Muhammad Saleem อายุ 34 ปี,Mr.Amir Hussain อายุ 24 ปี ,Mr.Muhammad Imran อายุ 21 ปี รวม 4 คน ทั้งหมดเป็นชาวปากีสถาน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเนื้อย่างชื่อนิคม บ้านโสน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมีล่าม(เสื้อขาว)มาเป็นผู้แปลภาษาให้
หลังก่อเหตุต้มตุ๋นร้านค้าในลักษณะลักทรัพย์ ด้วยการใช้กลอุบายหลอกล่อเหยื่อให้สับสนแล้วชิงเอาเงินสดและสินค้าไป มีผู้เสียหายในเขต อ.เมือง บุรีรัมย์หลายร้านค้า และคาดว่าแขกขาวกลุ่มนี้ น่าจะก่อเหตุไปในหลายจังหวัดโดยการเช่ารถออกไปหาเหยือซึ่งเป็นร้านค้าและจะเลือกเอาช่วงเวลาชุลมุน ทั้งหมดให้การรับสารภาพเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
น.ส. ยุวดี โจมรัมย์ ลูกจ้างร้านเนื้อย่างเล่าว่า ช่วงนั้นกำลังยุ่งได้มีชาวต่างชาติมาขอซื้อเบียร์ลีโอ 1 ขวดเป็นเงิน 75 บาท แล้วยื่นแบงค์ 1,000 ให้ตนจึงเอาแบงค์ 1,000 ไปเก็บในลิ้นชักแล้วทอนให้ 925 บาทระหว่างยื่นเงินทอนให้ชาวต่างชาติคนนี้ไม่รับเงินทอนบอกว่าจะขอเปลี่ยนยี่ห้อเบียร์
บอกชื่อเบียร์มาที่ตนไม่รู้จัก คาดหวังให้ตนสับสนจึงเปลี่ยนเป็นเบียร์ช้างให้ ชาวต่างชาติรับ ตนก็ทอนเงินให้ 925 บาทตามปกติ จนกระทั่งมาตรวจเช็คเงินปรากฎว่าเงินหายไป 925 บาท เมื่อมาตรวจดูกล้องวงจรปิดพบว่าได้เอาเงินแบงค์ 1,000 ให้ชาวต่างชาติไปแล้วทอนซ้ำไปอีก เท่ากับได้ทั้งเงินได้ทั้งสินค้าไป ยอมรับว่าสับสนและไม่รู้ตัวเพราะชาวต่างชาติพูดหลายภาษาหลอกให้ตนหลง
ด้าน พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมือง บุรีรัมย์ กล่าวว่าเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัด สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ มีร้านที่มาแจ้งความไว้แล้ว 2 ร้านค้า
ทั้งนี้ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ขยายผล พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าทุกร้านทราบและตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังหากพบแขกขาวกลุ่มนี้เข้าร้านให้มาแจ้งความได้ทุก สภ.และฝากเตือนร้านค้าให้ระวังมิจฉาชีพที่มาลักษณะในนามนักท่องเที่ยว ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เกรงใจนักท่องเที่ยวทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงเข้ามาด้วย
