ร้อยเอ็ดเชิญเที่ยวงาน “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” หนึ่งในประเพณีลอยกระทง ที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ
สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา พ่อค้า และประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ” ครั้งที่ 22 ประจําปี 2563 ขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม 2563 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า การลอยประทีปโคมไฟในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของชาวไทย ได้ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ วัตถุประสงค์เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อขอขมาโทษจากพระแม่คงคา ผู้ให้น้ำเพื่อการดำรงชีวิต ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมามนุษย์ และสัตว์ได้ใช้น้ำบริโภค และได้ทำความสกปรกต่อสายน้ำ เพื่อให้เกิดความสุขสวัสดีต่อชีวิต ชาวอีสานมีความเชื่อเรื่องลอยประทีปเพื่อบูชาพญานาค 15 ตระกูล ถือว่าเป็นผู้รักษาแม่น้ำ ค้ำแผ่นดินและเป็นผู้บันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล รักษาบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข
นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ถือว่าเป็นจังหวัดเดียวของภาคอีสาน ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ร่วมกับทางจังหวัด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆในจังหวัด อมาอย่างต่อเนื่องทุกปี จนทำให้การจัดงาน “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” ถูกยกให้เป็น 1 ใน 5 งานประเพณีลอยกระทงที่สำคัญ และยิ่งใหญ่ของประเทศ ประกอบกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การส่งเสริม และสนับสนุนผลักดันให้เป็นจังหวัดขั้นนำด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่จัดงานประพณีลอยกระทงของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็น Landmark ที่สำคัญมีหอสูงชมเมือง รูปทรงโหวด หรือหอสูงร้อยเอ็ด Tower ความสูง101เมตร ตั้งอยู่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย ใจกลางเมือง ที่ประดับตกแต่งไว้อย่างสะอาดสวยงามรอนักท่องเที่ยวมาเยือน
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เล่าว่า งานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” เดิมคืองานประเพณีลอยกระทง ที่ชาวจัหวัดร้อยเอ็ดจัดขึ้นทุกปื จนเมื่อปี พ.ศ. 2542 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น งานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป”ตามภาษาถิ่น หมายถึง การขอขมาพระแม่คงคาในคืนวันเพ็ญเดือน 12 การประกวดประทีปโคมไฟ และกระทงอันสวยงาม ซึ่งได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 22 และด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพันในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระประทีปส่วนพระองค์ จำนวน 3 พระองค์ ลงลอยเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกชาวจังหวัดร้อยเอ็ดทุกหมู่เหล่า อีกทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับการประกวดกระทงประทีปใหญ่
วันที่ 30 ตุลาคม 2563 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น. ป็นต้นไป ประกอบด้วยพิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ การประกวดธิดาสาเกตนคร
ของผู้ประกวดจากทั่วประเทศ การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป การรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป ผู้รำจำนวน 5,000 คน การแสดงแสง สีเสียง และสื่อผสมอันตื่นตา
วันที่ 31 ตุลาคม 2563 พิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจำนวน 6 จุด พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าๆ พระบรมราชินี และถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พิธีเปิดงาน การประกวดกระทงประทีปใหญ่ ชิงถ้ายพระราชทาน (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร) จากหน่วยงายภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนต่างๆ จำนวน 35 กระทง ลอยโชว์สายตาพี่น้องประชาชนรอบบึงพลาญชัย ชมขบวนแห่และเมืองร่วมสมัย จำนวน 12 ขบวน ตามตำนานเมืองร้อยเอ็ด ในสมัยทรารวดี การประดับประทีปโคมไฟรอบบึงพลาญชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด อัญเชิญพระประทีปพระราชทานลงลอย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น นำพี่น้องประชาชน ร่วมลอยกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ และกระทงข้าว เพื่อบูชาพระแม่คงคา และบุญคุณจองข้าว สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิอันลือเลื่องของจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ชมการจุดพลุดาวกระจาย ดอกไม้ไฟ การแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม เล่าขานตำนานเมือง การแสดงดนตรี การแสดงของศิลปินนักร้อง การประกาศผล และมอบรางวัลต่างๆ โดยการจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ในการจัดงานปลอดแอลกอฮอล์ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: