อดึตครูร้อยเอ็ด-พิการซ้ำซ้อน ลองไปขึ้นทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ ไม่คิดว่าจะได้ แต่กลับได้ หลังมีกระแสข่าวรัฐจะเรียกคืน เกิดความวิตกที่จะต้องหาเงินคืน
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปลัดจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด รองนายกเหล่ากาชาด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด ท้องถิ่นจังหวัด และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ แก่ผู้สูงอายุ ที่บ้านเช่าเลขที่ 23/5 ถนนเทวาภิบาล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้น ภายหลังรับรายงานว่า หลายคนเริ่มมีความวิตกกังวล รัฐอาจเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุที่มีการจ่ายซ้ำซ้อน
นายเจริญสุข ขามคุลา อายุ 62 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยรับราชการครู แต่ประสบอุบัติเหตุขาทั้งสองข้างพิการเดินไม่ได้ ต่อมามีอาการทางสมองซ้ำอีก ส่งผลให้พูดไม่ชัด จนต้องลาออกจากราชการ ตั้งแต่ปี 2547 ไม่มีภรรยา และลูก ไม่มีที่อยู่อาศัยของตนเอง ต้องมาเช่าบ้านสภาพเก่า เดือนละ 1,000 บาท โดยมีพี่สะไภ้ ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร เป็นคนคอยช่วยเหลือด้านอาหารการกินเรื่อยมา และในบางวันก็มีคนใจบุญนำข้าว ปบา อาหาร มามอบให้ เพราะเงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้จ่าย
ปัจจุบันเงินบำนาญ เหลือหักค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,400 บาท จากเบี้ยคนพิการ 800 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุอีกเดือนละ 600 บาท ซึ่งเบี้ยยังชีพที่ตนได้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้รับ เพราะเป็นอดีตข้าราชการรับเงินบำนาญอยู่แต่ไม่พอค่าใช้จ่าย เลยนั่งรถเข็นคนพิการไปที่เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเพียงลำพัง พร้อมแจ้งความจำนงขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่าเป็นอดีตข้าราชการข้าบำนาญ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้อนุมัติ และได้รับเงินเบร้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท รวมระยะเวลาที่รับเบี้ยผู้สูงอายุเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน เป็นเงิน 7,800 บาท ภายหลังมีกระแสข่าวว่าทางกรมบัญชีกลางเตรียมเรียกคืนจากผู้ขาดคุณสมบัติ ซึ่งตนวิตกกังวลมาก ไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหนเอาไปคืน เพราะลำพังในแต่ละเดือนก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า วันนี้ได้พาคณะหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจกับคุณครูเจริญสุข ขามคุลา ซึ่งถือว่าเป็นอดีตแม่พิมพ์ของชาติ ที่เคยสร้างคุณงามความดีไว้เมื่อครั้งที่ร่างกายยังปกติ ทั้งนี้จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางรัฐบาลอาจมีการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุที่มีการจ่ายซ้พซ้อน ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดมีจำนวน 227 ราย ในจำนวนนี้ครูเจริญสุข ก็เป็นบุคคลที่รับเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนด้วย อีกทั้งพบว่าเป็นผู้พิการซ้ำซ้อน ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเหล่ากาชาดจังหวัด จะได้หาทางช่วยเหลืออย่างเต็มศักยภาพ เราไม่ทิ้งกันจะมีการส่งเสริมอาชีพ การฝึกอาชีพสร้างรายได้ ส่วนกรณีกำลังจะมีการเรียกเบี้ยผู้สูงอายุคืนนั้น ทางจังหวัดร้อยเอ็ด จะได้หาทางชลอไว้ก่อน ซึ่งการใช้เงินคืนกรณีรับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนนั้น อยู่ระหว่างการรอ นโยยายจากทางรัฐบาล ที่จะออกมาเป็นแนวทางเพื่อแก้ไข และให้การช่วยเหลือต่อไป
