ชื่นชมชาวบ้านผู้เสียสละ อุทิศตนเป็นครูอาสา สอนเด็กในหมู่บ้านให้รู้หนังสือนานนับ 10 ปี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
จากคำบอกเล่าของนายสุรสิทธิ์ สุระพินิจ ชาวตำบลไพศาลอำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ว่าพบเห็นชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอุทิศตนเป็นครูอาสาสอนเด็กนักเรียนทุกเพศทุกวัยให้ได้รู้หนังสือ จนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และผู้ปกครองมาแล้วหลายปี
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บ้านเพ็กหมู่ 1 ตำบลไพศาล อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดพบเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน บริเวณบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่เจ้าของบ้านได้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่จำกัด จัดระเบียบสถานที่ ทำความสะอาดน่าอยู่ วางโต๊ะเก้าอี้สำหรับเด็กเด็กได้เรียนหนังสือ โดยมีเด็กวัยต่างๆ กำลังเดินทางเข้ามาเรียนอย่างสนุก
นางนภาพร นิลวัลย์ อายุ 46 ปี หรือครูพร เจ้าของบ้าน บอกว่า อาศัยอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากผู้เป็นสามีได้เสียชีวิตไปแล้วหลายปี ส่วนบุตรชาย 2 คนไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด เดิมเป็น อสม.เคยได้รับรางวัล อสม.ดีเด่น สาขาคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2560 นิสัยเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว แรกๆก่อนมาเป็นครูอาสา ก็เริ่มจากการเล่านิทานให้เด็กที่มาหาที่บ้านฟัง ทำให้เด็กชอบ จึงชวนเพื่อนมาหา เคยถามเด็กว่า พวกหนูพากันบวกเลขได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าบวกไม่ได้ เลยมองเห็นปัญหาและหาทางที่จะช่วย จึงได้บอกกับเด็กว่าถ้าอยากบวกเลข คิดเลขเป็นให้มาที่นี่บ่อยๆ หลังจากนั้นเด็กก็พากันมาทุกวัน เลยได้นำเอาความรู้เบื้องต้นของตนที่มีอยู่ ถ่ายทอดให้หลายอย่าง พอเด็กมาหาบ่อยเขาก็เริ่มทำ พูด อ่าน เขียนได้ ทำให้เวลาไปเรียนที่โรงเรียนก็จะทำให้เด็กเรียนได้ง่ายขึ้น หลังจากเรียนไปสักระยะเด็กหัวข้าวตนก็จะเข้าครัวทำอาหารเท่าที่มีอยู่ให้เด็กกินเหมือนกับอยู่บ้านของเด็กเองเสมอ
ในแต่ละวันเด็กจะมานับ 10 คนเลย ซึ่งตนได้สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล -ป.6 มาหลายรุ่นแล้ว พ่อ แม่ผู้ปกครองหลายคนบอกว่าดีใจ สบายใจ และไม่เป็นห่วงถ้าเด็กมาอยู่กับครูพรที่นี่ ถ้าผู้ปกครองพากันหาลูกหลานไม่เจอ ก็จะมาเจอที่นี่ ทำให้พ่อแม่ไม่เป็นห่วง ถ้ารู้ว่าเด็กอยู่กับครูพรพ่อ แม่ผู้ปกครองสบายใจ เพราะครูพรทำแต่สิ่งดีๆ เพื่อสังคม
ถามว่าการเป็นครูอาสาสอนเด็กครูพร ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆหรือไม่อย่างไรครูพรบอกว่า ไม่มี มีเพียงแต่ครูกศน.ครูห้องสมุดประจำตำบลไพศาล คอยสนับสนุนเรื่องดินสอ สี กระดาษ A4 ที่ปริ้นเป็นรูปการ์ตูน มาไว้ให้เด็กฝึกวาดรูปและฝึกอ่าน เขียนเท่านั้น เราไม่ได้มีรายได้ อาศัยเงินเดือนจากลูกชายที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดส่งมาให้ทุกเดือนไม่ได้เดือดร้อนอะไร จึงสามารถอุทิศตน ช่วยเหลือสังคมได้ แม้จะไม่มีเงิน แต่มีน้ำใจ เวลาอยู่กับเด็กๆ เห็นเด็กมีความรู้ มีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย
ครูพร ยังคิดจะสอนเด็กอยู่อย่างนี้ไปตลอดหรือไม่ ยินดีสอนไปตลอดถ้าร่างกายและสุขภาพยังดีอยู่ แต่สิ่งที่ขาดเหลือตอนนี้คือสมุด ดินสอ หนังสือ กระดาษ A4 เพื่อให้เด็กใช้เป็นอุปกรณ์ในการเรียน ในการฝึกวาดภาพระบายสี ให้เด็กมีสมาธิ อารมณ์นอกจากวาดภาพระบายสี ก็จะสอนเรื่องต่างๆ ทั้งบวก ลบ คูณ หาร ภาษาไทยและเรื่องอื่นๆที่เหมาะสม เช่นการพูดจา การตอบข้อซักถามของผู้ใหญ่ เด็กจะต้องมีมารยาทในการตอบ ต้องมีคำว่าครับ มีค่ะ มีขา รู้จักไหว้ ขอบคุณ เป็นต้น
การถ่ายทอดความรู้ขั้นพื้นฐานเบื้องต้น จะทำให้เด็กมีความรู้เพิ่มขึ้น สามารถนำไปใช้ในโรงเรียน เวลาครูสอนก็จะทำได้เลย
การแพร่ระบาดของ covid 19 เด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ไปโรงเรียนหรือต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ เราคิดว่าถ้าเอาเด็กที่อยู่บ้าน พ่อแม่ออกไปทำงานไม่มีเวลาดูแลลูกหลาน เด็กอาจติดเล่นเกม หรือพากันไปเล่นในทางที่ไม่ดี ก็จะชักชวนมาเรียนด้วย ซึ่งตนสอนเด็กมาแล้วหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลานับ 10 ปี เด็กเด็กบอกว่าพวกเราชอบเพราะมาเรียนกับครูพรสนุกดี ชอบพาเพื่อนมาเยอะๆ และอยากจะมาเรียนกับครูพรบ่อยๆ
นางรัศมี อังกาบ ชาวบ้านบอกว่า นับว่าครูพรได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาก เพราะเราจะได้ไม่ห่วงเด็ก เด็กไปเล่นในทางที่ไม่ดี หรือไปติดเกมเป็นต้น ถ้ามีโอกาสตนก็อยากจะให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสนับสนุน เพราะว่าป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แม้ว่าครูพรจะไม่มีรายได้อะไรมากนัก อาศัยเงินเดือนจากลูกชายที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดส่งมาให้กิน แต่ครูพรก็ยังมีน้ำใจสอนหนังสือให้เด็กเด็ก และทำอาหารให้เด็กกินฟรีอีกด้วย ถ้ามีทุนหรือมีผู้สนับสนุนก็คงจะดี ครูพรเองก็ทำไร่ ทำนาธรรมดาเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป แต่การเป็นคนที่อุทิศตน เสียสละรักเด็ก มาแล้วหลายปีไม่มีการดุด่าทำร้าย หรือตะคอกเด็กเด็กเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: