ชาวบ้านที่อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด กว่า 20 รายออกมาโวยหลังไปทำเรื่องกู้ยืมเงินจาก ธกส. แต่ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารรายหนึ่งร่วมกับนายทุน หลอก ทำให้มีหนี้เพิ่มขึ้นคนละหลายแสนบาท
ชาวบ้านจากหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ต.พรมสวรรค์อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ดกว่า 20 คนได้รวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ยุติธรรมตำบล หลังได้รับความเดือดร้อยจากการไปยื่นเรื่องขอกู้เงินจาก ธกส. สาขาโพนทอง แล้วกลับมีหนี้เพิ่มโดยไม่รู้ตัวคนละหลายแสนบาท มีนายไพทูรย์ เชื้ออุ่น นายก อบต.พรมสวรรค์ (ประธานศูนย์ยุติธรรมชุมชน ต.พรมสวรรค์) พ.อ.ท.ดร.ธาวิน ธาระมนต์ นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ นางสาวสายรุ้ง มูลศรีแก้ว รองปลัด อบต. กรรมการ นายนพดล บุญเดช นิติกร เลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของศูนย์ยุติธรรมชุมชน ตำบลพรมสวรรค์ ออกมาต้อนรับและประชุมรับเรื่องเพื่อหาทางช่วยเหลือ
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมา มีกลุ่มชาวบ้านได้รับการตืดต่อจากเจ้าหน้าที่ ธกส.สาขาโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด รายหนึ่ง แจ้งว่าผู้ที่เป็นลูกหนี้ ธกส.ที่ต้องการจะกู้เงินกับทางธนาคารเพิ่ม ให้ไปติดต่อชำระดอกเบี้ยที่คงค้างก่อน จึงจะทำสัญญากู้ยืมใหม่ได้ กลุ่มผู้เสียหายก็พากันไปที่ธนาคาร ตามที่แจ้ง และได้พบนายทุนรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิง เป็นคนมาช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งผู้ที่จะขอกู้ตอนนั้นมีหลายราย ขอกู้ตั้งแต่ 5 หมื่น 100,000 ,200,000 และ 300,000 บาท ระหว่างที่รอทางธนาคารอนุมัติ นายทุนรายดังกล่าวได้บอกว่า ขอนำเงินผ่านบัญชีของกลุ่มผู้กู้ และให้ถอนเงินที่ผ่านได้หรือไม่ กลุ่มผู้เสียหายคิดว่าคงไม่มีอะไรเลยยินยอม ต่อมาพากันตรวจสอบภายหลังพบว่า ในสัญญาของแต่ละคนมียอดหนี้โผล่ขึ้นมาจำนวนมาก เบื้องต้นมีผู้เสียหายประมาณ 20 ราย วงเงินกว่า 6 ล้านบาท
หลายคนเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ธนาคาร น่าจะมีส่วนรู้เห็น จึงได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และจังหวัด และได้พากันเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2565 ที่ผ่านมาแต่เรื่องก็ยังไม่ถึงไหน
นางจันทร์แถ บุตรพรม ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นลูกหนี้ ชั้นดี ของ ธกส.มาแล้วนับ 10 ปี ไม่คิดว่าเรื่องในลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับระบบธนาคาร ซึ่งตนจะเข้าและทีมงานพากันไปกู้ยืมเนื่องจากเป็นกลุ่มเลี้ยงวัว ไปทำเรื่องกู้ยืมเงินระยะยาวกับ ทางธนาคารภายในธนาคาร ในสัญญาจำนวน 2 งวด โดยงวดแรกจะเข้าบัญชีให้ 1 แสน อีก 1 แสนจะจ่ายภายหลัง แต่ไม่แค่นั้นมีการทำเอกสารเงินกู้ระยะสั้นซึ่งตนไม่ได้เสนอว่าจะทำเพิ่มมาอีก 1 แสน โดย 1 แสนนี้เจ้าหน้าที่ ธกส.บอกว่าเป็นเงินของนายทุน เมื่อเงินเข้าบัญชีต้องไปเบิกคืนนายทุน ตอนแรกยังไม่รู้ว่าตนเป็นหนี้เท่าไหร่แน่ ตรวจสอบทีหลังพบว่าเป็นหนี้ 2 สัญญา รวม 2 แสนบาท แต่มีเงินที่เข้าระบบที่ได้รับจริงๆ เพียง 1 แสนเท่านั้น
นางเดือนเพ็ญ พิมพ์รักษา บอกว่า ตนได้ไปทำสัญญาขอกู้ 5 หมื่นเศษ ตวจสอบภายหลังพบทางธนาคาร ทำสัญญาให้ตนเกินไป 6 แสนบาท ต้องเป็นหนี้รวม 8 แสนบาท ทั้งๆ ที่ทำสัญญาจริงๆ เพียง 5 หมื่น ครั้นไปสอบถาม กับเจ้าหน้าที่ธนาคารและขอดูสัญญา เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อก็พยายามบ่ายเบี่ยง และไม่ยอมให้ดูหรือตรวจสอบเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารบางรายและนายทุนน่าจะรวมหัวกันหาทางหลอกพวกตนแน่นอน
นายอำไพ บุญแสนรัน (สวมเสื้อทหาร)ชาวบ้าน หมู่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้ ธกส.(ชั้นดีมาก) แจ้งว่า เดิมตนมีหนี้ในระบบบัญชี จำนวน 3 แสนบาท พอมาทำเรื่องเพื่อขอกู้เพิ่ม และ เจ้าหน้าที่ ธกส.ขอโอนเงินผ่านบัญชีและถอนให้กับนายทุน จำนวน 425,000 บาท ตนก็ยอมไปถอนให้ แต่เมื่อตวจสอบภายหลังพบว่าตนมีหนี้จากเดิม 3 แสน รวมหนึ้ทั่งสิ้น 782,698.67 บาท ตนตกใจมากและนอนไม่หลับมาหลายคืนเพราะคิดว่าต้องมารับผิดขอบ เมื่อถามธนาคารก็ปัดเป็นเรื่องของผู้กู้กับนายทุน ที่ตกลงกันเอง ตนแย้งไปว่าตกลงอะไร ไม่ได้ตกลงหรือมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวเลย และทำไมจึงมีนายทุนมาเกี่ยวด้วย
นายไพทูรย์ เชื้ออุ่น นายก อบต.พรมสวรรค์ (ประธานศูนย์ยุติธรรมชุมชน ต.พรมสวรรค์)กล่าวหลังทราบรายละเอียดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่ากระทบความเชื่อมันของธนาคาร และพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เราจะสรุปเรื่องทั้งหมดรายงานทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบ และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สำนักงาน ธกส.จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รับแจ้งจากทางธนาคารว่า หลังทราบเรื่องเราก็ได้ลงไปตรวจสอบ และเรียกพนักงานคนดังกล่าวเข้ามายังสำนักงานธกส.จังหวัด โดยยังไม่ให้ปฏิบัติงานด้านใด พร้อมได้ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งลูกหนี้ ธกส.และ พนักงานของธนาคารได้ชี้แจง ธกส.จะไม่มีการปกป้องหรือช่วยเหลือใดๆ หากพบมีกาะกระทำตามที่ร้องเรียนจริงเราจะไม่ปล่อยไว้แน่ ซึ่งเรื่องทั้งหมดได้รายงานถึงผู้ใหญ่ในสำนักงานใหญ่แล้ว ทางสำนักงานใหญ่จะส่งกรรมการสอบสวนจากส่วนกลางลงมาอีกชุดและเข้าไปตรวจสืบทั้งระบบในธนาคาร วงจรปิด วันเวลาต่างๆ อย่างละเอียดทุกขั้นตอน ฉะนั้นเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ ธกส.สบายใจได้ และถ้าหากเงินหรือหนี้สินที่เกิดขึ้น จากเดิม หรือจากการทำธุรกรรมล่าสุด เป็นอย่างไร หากลูกค้า ธกส.ยืนยันว่าหนี้เดิมเท่าไหร่ เราก็จะคงไว้ ส่วนหนี้ใหม่ที่เป็นเรื่องราวกันเราก็จะยกออกไว้ก่อน ขอให้ผู้ร้องสบายใจได้ เพราะ ธกส.เราอยู่กับพี่น้องมายาวนาน มีความมั่นคง เกษตรกรเชื่อมั่น เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่บางคน อาศัยช่องทางที่ไม่ถูกต้องเอารัดเอาเปรียบกับประชาชน ทาง ธกส.เราไม่ปล่อยไว้แน่ขอให้สบายใจได้
