รอดหวุดหวิดนักเรียนหญิง ม.1 จากเหตุล่อลวงและอนาจารที่ร้อยเอ็ด
นักเรียนหญิงชั้น ม.1 เกือบตกเป็นเหยื่อชายหื่นที่อ้างว่ารถจักรยานยนต์เสียและเรียกให้ช่วยเหลือ แต่สุดท้ายกลับลวนลามและพยายามฉุดเข้าป่าเพื่อกระทำชำเรา โชคดีที่มีชาวบ้านผ่านมาเห็นและช่วยเหลือได้ทัน ผู้ต้องสงสัยจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่บริเวณริมถนนใกล้ดอนปู่ตา ข้างกำแพงวัดบ้านตำแย ตำบลนาโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมกับนายบุญมี เรืองศักดิ์ และนายนิวัฒน์ แสงหิรัญ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ อบต.นาโพธิ์ ซึ่งได้พาทีมข่าวไปยังจุดเกิดเหตุและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านตำแย หมู่ 3 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์สีแดงดำ พยายามจะลวนลามเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 โดยผู้ต้องสงสัยได้แกล้งทำทีว่ารถจักรยานยนต์เสียและเรียกให้เด็กช่วยสตาร์ทรถ แต่กลับใช้โอกาสนี้ลวนลามเด็ก
ขณะเกิดเหตุ ชาวบ้านที่สัญจรผ่านมาพบเห็นพอดี ทำให้คนร้ายตกใจรีบหนีไป ต่อมามีการพบเห็นผู้ต้องสงสัยพร้อมรถจักรยานยนต์ในบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง จึงได้แจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ เมื่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพมาถึงและพยายามควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยได้พยายามต่อสู้ขัดขืน โดยมีมีดคัตเตอร์อยู่ในมือ ก่อนที่คนร้ายจะสามารถหลบหนีไปได้
ผู้สื่อข่าวได้พบกับเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเล่าว่าเธอกำลังจะไปหาเพื่อนเมื่อเจอชายต้องสงสัยที่ขอความช่วยเหลือเรื่องรถจักรยานยนต์ แต่กลับถูกลวนลามและพยายามฉุดไป โชคดีที่มีชาวบ้านผ่านมาและช่วยเหลือได้ทันเวลา พ่อของเด็กหญิงบีกล่าวว่ารู้สึกตกใจและเสียใจมาก แต่ดีใจที่ลูกสาวปลอดภัย และเรียกร้องให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและไฟส่องสว่างในจุดที่เสี่ยง รวมถึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: