ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำในลำน้ำยัง จังหวัดร้อยเอ็ด หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในหลายตำบล กำชับทุกฝ่ายเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 6 นายจิรศักดิ์ มงคลสวัสดิ์ ผอ.โครงการชลประทานร้อยเอ็ด นำคณะลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำ ที่ลำน้ำยัง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียง ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลลงลำน้ำยัง และน้ำในลำน้ำยังมีปริมาณสูงขึ้น ซึ่งฝั่งซ้ายของลำน้ำยังไม่มีพนังกั้นน้ำ เป็นเหตุทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าไปท่วมไร่นา พื้นที่ทำการเกษตร และถนน ในหลายตำบลของอำเภอเสลภูมิ
ส่วนฝั่งขวาของลำน้ำยัง เป็นผนังกั้นน้ำ ซึ่งระดับน้ำ ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 2 เมตร เท่านั้น แต่ขณะนี้น้ำได้ไหลลงลำน้ำยัง ประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร /วินาที ซึ่งความจุของลำน้ำยังสามารถรับน้ำได้ เต็มพิกัดเพียง 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาทีเท่านั้น
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้สั่งกำชับ และเน้นย้ำให้สำนักงานชลประทานที่ 6 ร่วมกับส่วนราชการของกรมชลประทานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้หาทางรักษาคันพนังกั้นน้ำไว้ให้มีความมั่นคง แข็งแรงปลอดภัยให้มากที่สุด ซึ่งเราได้มีการวางมาตรการ โดยการจัดเจ้าหน้าที่เวรยามเฝ้าระวังอย่างใกล้าชิด พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักร และอุปกรณ์ประจำไว้ในพื้นที่ หากมีเหตุเร่งด่วนก็จะสามารถปฏิบัติการได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอีกในช่วงนี้ อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น ที่สำคัญก็คือเราได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแล และเฝ้าระวังร่วมกัน ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่พนังกั้นน้ำเคยขาดเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดดังกล่าว เราได้มีการซ่อมแซม เสริมความแน่นหนาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีอีกหลายจุดของพนังกั้นน้ำที่มีความเสี่ยง เราได้เร่งซ่อมแซมให้มีความแข็งแรงแล้ว และกรมชลประทานได้จัดสรรงบประมาณ ปี 2563 ให้กับโครงการชลประทานร้อยเอ็ด เพื่อเสริมความสูง ของพนังกั้นน้ำให้มีความแข็งแรง ไปแล้ว
สำนักงานชลประทานที่ 6 มีพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ทั้งนี้ช่วงตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ส่งผลดีให้กับพื้นที่ในตอนนี้ก็คืออ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำปาวประมาณ 150 ล้าน ลบม. ตรงนี้ไม่กังวล เพราะเรายังต้องการน้ำเข้าในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำปาวมีน้ำอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นเท่านั้น พื้นที่ที่มีฝนตกอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำ เราอยากได้น้ำเก็บไว้
ส่วนพื้นที่ที่ฝนตกในตอนล่างของอ่างเก็บน้ำ อันนี้เป็นผลดีกับพี่น้องเกษตรกรที่ได้ทำการเกษตรไปแล้ว แต่ควรจะมีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ เพราะเราไม่ทราบว่าฝนจะตกลงมาอีกเมื่อใด ตกต่อเนื่องอีกหรือไม่ ถ้าเรากักเก็บไว้ปัญหาต่างๆก็จะลดลง
