ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศเตรียมช่วยเหลือหลังน้ำลด เจาะน้ำบาดาล ให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยและเลี้ยงโคขุนเพื่อขายสร้างรายได้ให้เกษตรกร
วันที่ 22 กันยายน 2562 ที่หอประชุมโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอเสลภูมิให้การต้อนรับ โอกาสนี้มีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมจัดนิทรรศการ ให้ความรู้ด้านอาชีพ การปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ให้แก่เกษตรกรด้วย
อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน 2 สาย คือแม่น้ำชี และแม่น้ำยัง ซึ่งแม่น้ำทั้ง 2 สายจะไหลมาบรรจบกันที่อำเภอเสลภูมิ จากสถานการณ์พายุโซนร้อนโพดุล วันที่ 29 ส.ค.- 4 ก.ย.2562 ทำให้อำเภอเสลภูมิ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมากที่สุด เมื่อเทียบกับอำเภออื่น ของจังหวัดร้อยเอ็ด
อำเภอเสลภูมิ ถูกน้ำท่วม 11 ตำบล 120 หมู่บ้าน 12,545 ครัวเรือน โรงเรียน 54 แห่งวัด 48 แห่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 26 แห่ง ประชาชนเดือดร้อน 48,400 คน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 3 แสนไร่เศษ ที่ผ่านมาทางอำเภอ ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด หน่วยทหาร ส่วนราชการ หน่วยงาน มูลนิธิฯ ต่างๆ ตลอดจนจิตอาสา เข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน มีการจัดทำอาหาร แจกถุงยังชีพ น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ และโรงครัวพระราชทาน จำนวน 2 ครั้ง
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วม บริเวณแม่น้ำยัง น้ำได้ลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่บริเวณที่ลุ่มช่วงแม่น้ำยังและแม่น้ำชี ไหลมารวมกัน ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง และมีบางหมู่บ้าน ถูกน้ำล้อมรอบ ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเข้าออกหมู่บ้าน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอทุ่งเขาหลวง ณ หอประชุมอำเภอทุ่งเขาหลวง จำนวน 1,250 ชุด ซึ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง ถูกน้ำท่วม 5 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 3,673 ราย พื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย 2,525 ไร่
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมพี่น้องชาวอำเภอเสลภูมิ และ อำเภอทุ่งเขาหลวง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งรัฐบาลต้องมาคิดหาทางฟื้นฟู และจัดหาน้ำให้ หลังจากน้ำลดแล้ว คาดว่าจะมีความแห้งแล้งเหมือนเดิม พร้อมได้นำเอากรมบาดาล กรมทรัพยากรน้ำ มาเจาะบ่อบาดาลให้กับพี่น้องประชาชน โดยบ่อบาดาลที่เจาะ 1 บ่อสามารถ ช่วยเหลือเกษตรกรได้ประมาณ 700 ไร่ พอมีน้ำบาดาลแล้ว รัฐบาลก็คิดทำโครงการเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้หลังน้ำลด พร้อมทั้งมีการประกันรายได้และมีตลาดรองรับที่แน่นอน ได้แก่ โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย คือ
1. ปลูกถั่วเขียว ใช้เวลาเพาะปลูก 70 วัน แจกเมล็ดพันธุ์ 5 กก./ไร่ ประกันราคาที่ 30 บาท
2. ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แจกเมล็ดพันธุ์ 3.5 กก./ไร่ คนละไม่เกิน 10 ไร่ ประกันราคาที่ 8 บาท และ
3.โครงการโคขุนสร้างรายได้ ส่งออกไปจีน เป้าหมาย 1 ล้านตัว โดยกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนเงินกู้รายละ 120,000 บาท ซื้อลูกโค 5 ตัวๆ ละไม่เกิน 24,000 บาท และมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 250 กก. ประกันวัวตัวละ 100 บาท/เดือน กำหนดระยะเวลาเลี้ยง 4 เดือน โดยเลี้ยงในคอกของตนเอง รวมถึงสนับสนุนเครื่องผสมอาหารตามสูตรของกรมปศุสัตว์ ให้กลุ่มละ 500-1,000 ตัว อีกทั้งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลขุดเจาะวางระบบน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์ 1 บ่อ ใช้ประโยชน์ได้ถึง 700 – 1,000 ไร่ และรัฐบาลช่วยเหลือดอกเบี้ยให้ 3% เกษตรกรออกเอง 1% และมีประกันความเสียหายหากโคเสียชีวิต
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วม กรณีพื้นที่เพาะปลูกเสียหายทั้งหมด รายละไม่เกิน 30 ไร่ ข้าว ไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ ไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท สำหรับกรณีสัตว์ตายหรือสูญหาย โค รายละไม่เกิน 2 ตัว ตัวละไม่เกิน 6,000-20,000 บาท สุกร รายละไม่เกิน 10 ตัว ตัวละไม่เกิน 1,300-3,000 บาท แพะ รายละไม่เกิน 10 ตัว ตัวละไม่เกิน 1,000-2,000 บาท เป็นต้น โดยขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรกำลังเร่งสำรวจความเสียหายของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อให้ได้จำนวนที่ชัดเจน จากนั้นจึงเยียวยาตามตามอัตราที่กำหนด โดยเร่งดำเนินการภายใน 60 วัน หลังน้ำลดและจะโอนเงินให้กับเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: