หนองบัวลำภู – ประกาศปิดจุดเสี่ยง จังหวัดหนองบัวลำภู สู้ภัยโควิด-19 หลังคณะกรรมการประชุมเครียด ก่อนผู้ว่าลงนามบังคับใช้ทันที
ประกาศปิดจุดเสี่ยง
บ่ายวันที่ 19 มี.ค. 63 นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผวจ.หนองบัวลำภู ได้ลงนามประกาศ ที่ นภ.0032/ว 4281 เรื่องมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู แนบคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภุที่ 1/2563 ลงวันที่ 19 มี.ค. 63 ให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติ และทุกอำเภอแจ้งลงไปยังทุก อปท.ให้ถือปฏิบัติ
โดยใจความที่ถือปฏิบัติอันเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายนี้ ได้ยึดตามแนวปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทย 3 ข้อหลักคือ ห้ามข้าราชการเดินทางออกนอกประเทศ ประชาชนควรงดเดินทางไปประเทศที่เสี่ยง มาตรการยับยั้งการแพร่ระบาด เช่นปิดสนามมวย สนามชนไก่ รวมทั้งสนามซ้อม สถานบริการ สถานที่มีการชุมนุม ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหารมีเครื่องดื่ม มีดนตรี โรงหนัง ฟิตเนส สถานศึกษา กวดวิชา งดกิจกรรมการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกัน คัดกรอง ก่อนเคลื่อนย้าย งดจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากมารวมกัน เช่นตลาดนัด ถนนคนเดิน ดนตรี คอนเสิร์ต งดทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. จนถึง 1 เม.ย. 63 ซึ่งมีการพูดคุยกันว่าบรรยากาศการประชุมค่อนข้างจะเคร่งเครียดก่อนที่จะประกาศออกมาบังคับใช้
และในประกาศยังมีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดในพื้นที่ โดยมี 3 กลุ่มเป้าหมายที่ต้องดำเนินการลดความเสี่ยง มีกลุ่มแรกคือ คน หมายถึงกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสองคือกิจกรรม ที่มีการรวมคนจำนวนมาก และกลุ่มที่สามคือสถานที่ ที่มีกิจกรรมหรือมีคนอยู่รวมกันหมู่มาก ทั้งนี้ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ยังมีผู้ต้องเฝ้าระวังที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงอยู่จำนวน 115 คน ขณะที่ประชาชนยังรู้สึกว่าการประกาศของจังหวัดวันนี้รู้สึกว่าจะประกาศหลังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีการรวมกลุ่มกัน เช่น สภากาแฟของภาคส่วนราชการและองค์กรเอกชน ที่ริมบึงหนองบัว เมื่อเย็นวันที่ 18 มี.ค. 63 การจำหน่ายหน้ากากอนามัยของหน่วยงานพาณิชย์จังหวัด ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ศรีบุยเรือง ในวันที่ 19 มี.ค. ที่มีคนไปแออัดเพื่อรอซื้อหน้ากาก ตลาดนัดคลองถม ที่มีผู้คนจากหมู่บ้านต่าง ๆ มาซื้อสินค้าจำนวนนับพันคน ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศออกมา
ติดตามข่าวสารจังหวัดหนองบัวลำภู ที่นี่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: