X
ครูอัตราจ้าง

ครูอัตราจ้าง สั่งเสีย “ไม่ต้องจัดงานศพ”ก่อนผูกคอตายในห้องพักโรงเรียน

หนองบัวลำภู- ครูอัตราจ้าง สั่งเสียไม่ต้องจัดงานศพ เขียนในสมุดบันทึกก่อนผูกคอตายในโรงเรียน  พ่อแม่ร่ำไห้รับศพกลับบ้าน  คาดเครียดเรื่องส่วนตัว

ครูอัตราจ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองบัวลำภู วันที่ 24 กันยายน 2561 (เวลา 12.00 น.) พ.ต.ท.สุมนชาย จำนงนิจ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภุ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ประยุทธ์ ลายเมฆ สว.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.นากลาง และหน่วยกู้ภัยร่วมใจนากลาง เข้าชันสูตรศพ นายอนุชิต ทุมแสง อายุ 32 ปี ครูอัตราจ้าง อยู่ที่ 62/2 หมู่ 1 ต.นากลาง อ.นากลาง ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับตะขอผนังห้องพักครู ที่อาคาร 1 ชั้น 2 โรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์ สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ ไม่พบร่องรอยบาดแผลอื่น ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ บนโต๊ะทำงานใกล้ศพพบสมุดบันทึกสีชมพู กระเป๋าสะพายและโทรศัพท์ของผู้ตายวางอยู่

ตำรวจตรวจสอบสมุดบันทึก พบข้อความที่คาดว่าผู้ตายเขียนสั่งเสียไว้ ระบุว่า  “เหตุการณ์นี้ ไม่เกี่ยวกับใคร ที่ผมทำแบบนี้ คือผมคิดว่า ดีที่สุดแล้ว เอ๋” และยังเขียนบอกพ่อและแม่ให้เอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเอาเงินเดือนที่ออกวันที่ 24 พร้อมทั้งขอไม่ให้จัดงานศพ ขณะเดียวกันเพื่อนครูในโรงเรียนให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ผู้ตายเป็นคนตั้งใจทำงาน โดยปกติจะมาโรงเรียนตั้งแต่หกโมงเช้าทุกวัน แต่วันนี้ช่วงเช้าโรงเรียนจัดกิจกรรมก่อนวันเกษียณราชการ ไม่มีใครพบผู้ตายจนกระทั่งกลับมาที่ห้องพักครูถึงพบเสียชีวิตแล้ว หลังเกิดเหตุได้ประสานพ่อแม่ผู้ตายมาที่โรงเรียนซึ่งก็รับทราบและไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมขอรับศพกลับไปดำเนินการตามที่ผู้ตายสั่งเสียเอาไว้ ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายอาจมีความเครียดเรื่องส่วนตัว ก่อนที่จะอาศัยโอกาศที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ก่อเหตุสลดดังกล่าว

 

ติดตามข่าวสารหนองบัวลำภู

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

คนหนองบัวลำภู โดยกำเนิด เข้าสู่แวดวงนักข่าวเมื่อปี 2529 เป็นนักข่าวคนเดียวของอำเภอ กระทั่งปี 1 มกราคม 2536 สถาปนาจังหวัด ก็เลยได้เป็นนักข่าวคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู โดยปริยายจวบจนทุกวันนี้ ชอบถ่ายภาพ ชอบค้นหา คติประจำใจ "ทำยังไงให้คนรู้ว่านี่คือจังหวัดหนองบัวลำภู" จึงได้ตั้งเฟสบุ๊คกลุ่ม "ที่นี่..เมืองลุ่มภู" ขึ้นมาเพื่อทำให้คนได้รู้จัก