หนองบัวลำภู-หลังรับซื้อมาสามปี เริ่มออกลายตั้งเงื่อนไขขายลูกไก่แพง บังคับให้ใช้หัวอาหารเลี้ยง แถมตุกติกหลายเรื่อง จนกลุ่มผู้เลี้ยงทนไม่ไหวบอกจะเลิกขายให้ แล้วหาวิธีแปรรูปเป็นอาหารขายแทน
เรื่องของผู้เลี้ยงไก่งวงที่ประสบปัญหาผู้รับซื้อเล่นแง่คราวนี้เกิดขึ้นที่กลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงไก่งวง บ้านโป่งแค หมู่ 3 ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.60 นายอาทิตย์ สุระพงษ์ อายุ 53 ปี ประธานกลุ่มฯ เจ้าของสุระพงค์ฟาร์ม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงไก่งวงซึ่งมีสมาชิกอยู่ 33 ราย ต่างหาทางช่วยเหลือกันเองด้วยการแปรรูปไก่งวงเพื่อขายสร้างรายได้ทดแทน หลังจากเจอปัญหาผู้รับซื้อตั้งเงื่อนไขมากมายจนรับไม่ได้
นายอาทิตย์ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเมื่อห้าปีก่อนได้ลงมือเลี้ยงไก่งวง จนกระทั่งปี 2558 ชาวบ้านได้เริ่มเลี้ยงไก่งวงมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเน้นพันธุ์สมอลไวท์ ตัวสีขาว ซึ่งมีน้ำหนักดีเลี้ยงง่าย โดยจะเลี้ยงในโรงเรือนยกพื้น เพราะควบคุมการให้อาหารและโรคได้ง่าย และอาหารส่วนใหญ่จะเน้นการให้กินหญ้า มีส่วนเสริมอื่นอย่างมันสำปะหลังหมักกากน้ำตาล ส่วนอาหารเม็ดจะใช้ในปริมาณน้อย จึงทำให้ต้นทุนการเลี้ยงต่ำและใช้วัตถุดิบในพื้นถิ่น การควบคุมโรคก็มีการตรวจเช็คและดูแลให้วัคซีนสม่ำเสมอ สามารถผลิตไก่งวงส่งผู้ซื้อได้ตรงตามกำหนด ได้มาตรฐานและเพียงพอต่อยอดการสั่งซื้อ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ซื้อซึ่งมีการตกลงซื้อขายโดยการเจรจา ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไก่งวงถูกส่งขายตามห้างต่าง ๆ ตรงกำหนด
มาในระยะหลัง ๆ ปรากฎว่าผู้ซื้อซึ่งจะเรียกได้ว่าผูกขาดกับทางกลุ่ม ก็เริ่มมีอาการแปลก เริ่มจ่ายเงินช้าบ้าง ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ส่งไก่งวงกว่า 6,000 ตัว ให้ผู้ซื้อตามออเดอร์ น้ำหนักประมาณ 40 ตัน แต่พอ เดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เริ่มมีข้อเสนอบอกว่าจะลดปริมาณการซื้อลง เพราะห้างค้าปลีกรายใหญ่บอกว่าไก่งวงที่จะรับซื้อต้องเป็นไก่งวงที่เลี้ยงด้วยหัวอาหารล้วน ๆ เพื่อควบคุมคุณภาพ ห้ามใช้อาหารอย่างอื่น ซึ่งหัวอาหารผู้ซื้อจะจัดหามาให้ และผู้เลี้ยงจะต้องสั่งมาไว้ในปริมาณมาก ต้องจ่ายเงินซื้อก่อนและค่าขนส่งก็ต้องออกเอง การซื้อขายลูกไก่จากเดิมที่ผู้เลี้ยงขายให้กันเองราคาตัวละ 50 บาท จะต้องทำบัญชีการขาย และต้องขายในราคา 80 บาท ให้ส่งเงินค่าขายลูกไก่ให้ผู้ซื้อและจะส่งเงินค่าลูกไก่คืนให้ตัวละ 50 บาท นอกจากนี้ยังต้องมีเงินประกันไก่ตายตัวละ 80 บาท อีกด้วย
นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางสมาชิกกลุ่มเริ่มรู้สึกถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมาก เพราะการลงทุนเลี้ยงไก่ทุกบาททุกสตางค์เป็นของผู้เลี้ยงทั้งหมด เพียงแต่เราเชื่อใจผู้ซื้อจึงไม่ได้ทำตลาดอย่างอื่นรองรับ จู่ ๆ มามัดมือชกแบบนี้ทางกลุ่มก็ต้องดิ้นรนหาทางระบายไก่งวงออกไป ซึ่งก็เริ่มทำการแปรรูปไก่ที่พร้อมขายทำเป็นอาหาร เช่น ลาบ ต้ม ไส้กรอก ไก่อบ และประสานทางจังหวัดให้เข้ามาช่วยเหลือในการส่งเสริมการแปรรูปให้กับผู้เลี้ยง
ผู้เลี้ยงไก่งวงต้องลงทุนทำโรงเลี้ยงโดยใช้วัสดุที่หาง่ายในพื้นถิ่น ตกราคาประมาณ 1-3 หมื่นบาทตามวัสดุ ตอนนี้กลุ่มมีตู้ฟักไข่ 8 ตู้ มีไก่รุ่นอนุบาลอยู่ประมาณ 3,000 ตัว ไก่รุ่นอายุ 2-3 เดือน ประมาณ 2,000 ตัว อายุ 3-4 เดือน ประมาณ 3,000 ตัว และอายุ 4-6 เดือนพร้อมจำหน่ายประมาณ 3,000 ตัว ราคาประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งจะต้องหาวิธีการระบายออก เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในฟาร์มของสมาชิก โดยกำหนดราคาขายส่งไก่งวงตัวเป็น ๆ ตามราคาที่ผู้รับซื้อเคยซื้อคือ ตัวผู้นำหนักตัวละ 5-6.5 ก.ก. ราคา ก.ก.ละ 130 บาท ตัวเมียน้ำหนักตัว3-4 ก.ก. ราคา ก.ก.ละ110 บาท ก็อยากฝากถึงชาวบ้านหรือผู้ที่สนใจไก่งวงมารับซื้อเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับทางกลุ่มด้วย สำหรับผู้สนใจไก่งวงสามารถติดต่อนายอาทิตย์ ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 089-517-0355
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: