X

ดับสลด ช่างก่อสร้างชาวลาว นั่งพิงขอบเตียงไร้คนดูแล

หนองบัวลำภู-ช่างก่อสร้างชาวลาว  ข้ามโขงมาหากินในไทยหลายปี หลังปีใหม่อยู่ทำงานปูพื้นกระเบื้องเพียงลำพัง อากาศเปลี่ยนร่างกายอ่อนแอไม่สบายก็ไม่ไปหาหมอ  สุดท้ายเพื่อนคนงานมาพบเป็นศพนั่งแข็งทื่อบนที่นอน

เวลา 17.30 น.  วันที่ 22 ม.ค.61 ศูนย์วิทยุ 191  รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตในบริเวณบ้านที่กำลังก่อสร้าง  อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินสาย 210  ตรงข้ามห้างเทสโก้โลตัส  จึงแจ้งให้กู้ภัยคุณธรรมเข้าตรวจสอบ  พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู   ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารเดี่ยวสองชั้น   ที่ชั้นล่างของอาคารมีเพิงคนงานก่อสร้างเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเท่าเตียงนอน  ใช้ผ้าพลาสติกกันลมมีมุ้งสีฟ้ากางอยู่  ภายในพบร่างผู้เสียชีวิต สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ  ร่างกายซูบผอม  อยู่ในลักษณะนั่งพิงขอบเตียงที่เป็นเพียงไม้กั้นกันตก

กู้ภัยเข้าไปจับร่างพบว่าแข็งทื่อคาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชม.  นายสนอง  พิมพ์นนท์  อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 7 ต.นากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู  บอกกับเข้าหน้าที่ว่าผู้ตายเป็นคนลาว บ้านอยู่แขวงไชยะบุรี  เรียกชื่อว่านายนง  มีนายจ้างอยู่ที่ จ.เลย  ส่งให้มาก่อสร้างอาคารแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนใกล้จะเสร็จ  ก่อนปีใหม่ช่างคนอื่นก็ไปทำงานที่อื่นต่อ  เหลือเพียงนายนง  อยู่ทำงานคนเดียวโดยก่อนเสียชีวิตทำงานปูกระเบื้องที่ชั้นล่างของอาคาร  หลังปีใหม่มีอาการเจ็บป่วยโดยเฉพาะไอเรื้อรัง  แต่ก็ไม่ไปหาหมอซื้อแค่ยาแก้ไอมากิน  วันนี้ตนเสร็จจากทำงานที่ อ.ศรีบุญเรือง  ได้แวะมาหาก็พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว  ทางเจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้ตายไปเก็บไว้ที่ รพ.หนองบัวลำภู   เพื่อรอญาติมาติดต่อรับไปดำเนินการกันต่อไป  เบื้องต้นคาดว่าสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผู้ตายที่ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วย แต่ไม่ไปรักษาตัว  จนเกิดอาการช๊อคและเสียชีวิตดังกล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

คนหนองบัวลำภู โดยกำเนิด เข้าสู่แวดวงนักข่าวเมื่อปี 2529 เป็นนักข่าวคนเดียวของอำเภอ กระทั่งปี 1 มกราคม 2536 สถาปนาจังหวัด ก็เลยได้เป็นนักข่าวคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู โดยปริยายจวบจนทุกวันนี้ ชอบถ่ายภาพ ชอบค้นหา คติประจำใจ "ทำยังไงให้คนรู้ว่านี่คือจังหวัดหนองบัวลำภู" จึงได้ตั้งเฟสบุ๊คกลุ่ม "ที่นี่..เมืองลุ่มภู" ขึ้นมาเพื่อทำให้คนได้รู้จัก