ชาวบ้านเห็นชอบ สร้างอุโมงค์สูบน้ำลงเขื่อนภูมิพลผ่านหมู่บ้านต้องการ แต่รัฐต้องชดเชย ชัดเจน และให้ไฟฟ้าสว่าง ลดค่าไฟฟ้า ทำถนน หลังร่วมแสดงความเห็นเพิ่มทุนน้ำในเขื่อนภูมิพล
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ที่ห้องประชุมอาคารเกษมจาติกวนณิช เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ทางมหาวิทยาลัยเรศวร และและบริษัทภาคเอกชน ร่วม ได้จัดระดมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในที่ประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาทบทวนเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนภูมิพล โดยมีนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานในพิธี และนายดุสิต แสงสุคล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตาก ซึ่งมี 2 แนวทางในการส่งน้ำคือ อ่างเก็บน้ำแม่ยวม ตั้งอยู่บนแม่น้ำยวมเหนือ บรรจบแม่น้ำเมย เขต อ.สบเมย จ.แม่สฮ่องสอน และสถานีสูบน้ำเมย ตั้งแต่บริเวณจุดโค้งของแม่น้ำเมย ห่างจุดบรรจบแม่น้ำเมย – ห้วยขะแนง ในอำเภอแม่ระมาด จ.ตาก ทั้งนี้เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล ช่วยแก้หรือบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพลในปัจุบัน และอนาคต โดยมีประชาชนที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำจากพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดตาก กว่า 300 คน เข้าร่วมรับฟัง และแสดงความเห็น
ในที่ประชุมได้สรุปผลการดำเนินการจากกการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนมาให้ที่ประชุมทราบ และชี้แจง จากนั้นมีการเปิดโอกาสให้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมีความเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว แต่ยังห่วงเรื่องความไม่ชัดเจนของการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ , เรื่องของสิทธิชุมชน ที่จะได้รับอะไรจากโครงการฯ และผลกระทบ เช่น ควรมีไฟฟ้าใช้ในพื้นที่ , ถนน , การจ่ายชดเชยที่ดิน และที่อยู่อาศัย ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการ ที่ปรึกษาโครงการ ได้ชี้แจงจนเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ดีในโครงการสถานีสูบน้ำเมย ต้องแต่บริเวณจุดโค้งของแม่น้ำเมยนั้น จะต้องเจรจากับทางประเทศเมียนมาด้วย เพราะถือว่า เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ
นายศุภธนิศร์ รุ่งเรืองเลิศไพศาล นายกอบต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แนวสร้างอุโมงค์ต้องผ่าน 6 หมู่บ้าน หากไปประชุมแล้วต้องถูกชาวบ้านถามว่า ชาวบ้านจะได้อะไร หรือ ดินที่ขุดนั้น จะเอาดินไปทิ้งที่ไหน เพราะต้องผลกระทบแน่นอน และรัฐจะชดเชยอย่างไร ฉะนั้นรัฐต้องมีความชัดเจนในรายละเอียด และควรมีสร้างถนนเข้าไปหมู่บ้าน และให้มีไฟฟ้าใช้ด้วย
ด้านนายวันชัย ศรีนวล ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด หมู่ที่ 6 ตำบลนาคอเรือ อ.ฮอด จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ว่า มีโครงการหลายอย่างตกหลายไป เช่น โครงการการพลังงานสูบน้ำ และฝายห้วยน้ำดั้น ขณะที่ชาวบ้านลำห้วยแม่งูด ถามว่า ชาวบ้านจะได้อะไรบ้างกับโครงการนี้ ตนเองตอบไม่ได้ แต่ขอเสนอว่า อยากเสนอให้ลดค่าไฟฟ้าให้กับชาวบ้าน อ.ฮอด และ อ.อมก๋อย อ.ฮอดไปพิจารณาด้วย
นายจันทร์แก้ว จินะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลนาคอเรือ อ.ฮอด จ.แม่ฮ่องสอน ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของผลกระทบ เช่น หากชาวบ้านได้รับผลกระทบ จะมีการดูแลอย่าง ไร ขอให้ลงรายละเอียดมากกว่านี้ ยอมรับว่าโครงการนี้มีประโยชน์มาก แม้นว่าหมู่บ้านตนเองจะอยู่ท้ายน้ำก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาน้ำท่วม ไป 2 เดือนกว่า ทำให้ไม่สามารถทำนาได้ ต้องเสียค่าใช่จ่ายจำนวนมากไปซื้อฟางข้าวอัดก้อนเลี้ยงวัว หากน้ำไม่ท่วมก็สามารถทำนาได้ ส่วนโครงการนี้คิดว่า ถ้าแก้ปัญหาน้ำท่วม ตามที่ได้คุยในที่ประชุม ก็เป็นสิ่งที่คาดหวังของชาวบ้าน
สำหรับสถานีสูบน้ำเมย ต้องแต่บริเวณจุดโค้งของแม่น้ำเมย ห่างจุดบรรจบแม่น้ำเมย ห้วยขะแนง ทางด้านเหนือน้ำประมาณ 0.8 กิโลเมตร ในอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก พื้นที่รับน้ำฝน 6,261.0 ตารางกิโลเมตร สถานีสูบน้ำเมย มีเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง สถานีสูบน้ำห้วยแขนง 5 เครื่อง ความยาวอุโมงค์ส่งน้ำ16.07 กิโลเมตร และผันน้ำเฉลี่ยปีละ 1,114 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้ 1,144.03 ไร่ ผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน ที่ทำกิน 5 ครังเรือน รวม 163 ไร่ และที่พักอาศัย กับสิ่งปลกสร้าง 4 หลัง ส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำยวม ตั้งอยู่บนแม่น้ำยวม เหนือจุดบรรจบแม่น้ำเมย มาทางด้านเหนือน้ำ 13.8 กิโลเมตร ในเขตอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่รับน้ำฝน 5,886.5 ตารางกิโลเมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 3.32 ตารางกิโลเมตร มีสถานีสูบน้ำบ้านสบเงา จำนวน 6 เครื่อง ความยาวอุโมงค์ส่งน้ำ 61.52 กิโลเมตร ปริมาณน้ำผันเฉลี่ยปีละ 1,759 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลกระทบ 6,003.9 ไร่ ผลกระทบที่พักอาศัย และที่ทำกิน คือ ที่ทำกิน 26 ครัวเรือน รวม 109.35 ไร่ ที่พักอาศัย และสิ่งปลูกสร้าง 14 หลังคา
