ราษฎรเมียนมา ประมาณ 700 คน หนีพม่าปะทะทหารกะเหรี่ยงหนัก ทั้งปืนค. และอาวุธประจำกาย คนไทยจำนวนมากติดในฝั่งพม่า
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ราษฎรพม่า เชื้อสายกะเหรี่ยง จากทางใต้จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามบ้านแม่ตาวดอนไชย หรือบ้านไร่ ตำบลแม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 700 คน ได้หนีภัยจากการสู้รบเข้ามาเขตไทยที่บ้านไร่ ขณะที่มีการปะทะกันระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู.) โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ใช้อาวุธปืนค.6. ค.81 ยิงใส่กัน และใช่อาวุธประจำกายปะทะกัน กลุ่มราษฎรกะเหรี่ยงทั้งหมดอยู่ในพื้นที่บ้านเลอเตก่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู. แต่ทหารเมียนมาได้เข้าไปตรวจสอบ และจับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ลี้ภัยไปจากเมืองต่างๆ และไปอาศัยอยู่กับฝ่ายเคเอ็นยู.รวมไปถึงการฝึกอาวุธยุทธปกรณ์ด้วย ในระหว่างการอพยพ เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ และนำผู้ลี้ภัยไปยังบริเวณในหมู่บ้าน และให้อาหาร และน้ำดื่ม จากการบริจาคของชาวไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเสียงปืนค. และอาวุธประจำกาย ที่ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันอย่างหนัก เบื้องต้นยังไม่มีกระสุนปืนล้ำเข้ามาตกในเขตไทย แต่ทางทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด เข้าไปตึงแนวชายแดนบริเวณแม่น้ำเมยแล้ว และตั้งจุดสกัดร่วมกับ ฝ่ายปกครองไม่ให้มีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไปพื้นที่ชายแดน
ล่าสุด ญาติคนไทยในฝั่งไทยพยายามจะไปพื้นที่ชายแดน เพื่อไปดูญาติ แต่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไป เนื่องจากมีคนไทยจำนวนมากติดอยู่ในฝั่งเมียนมา และไม่สามารถข้ามมาได้ เพราะยังมีการสู้รบอยู่
