พม่ากะเหรี่ยงปะทะหนัก ทั้งปืนใหญ่ปืนเล็ก ชาวไทยหนีหลบหาที่กำบังวุ่น ส่งผู้ลี้ภัยกลับหยุดชะงัก
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 นี่เป็นภาพสดๆ ที่ราษฎรไทย ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา บ้านดอนไชย ตำบลแม่ตาว อ.แม่สอด ต่างวิ่งเข้าหลบหนีเข้าที่กำบังบริเวณบ้านที่อยู่อาศัย เมื่อได้ยินเสียงอาวุธปืนหนัก และอาวุธประจำกายอย่างถี่ยิบจากการปะทะกันระหว่างทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง กับ ทหารรัฐบาลเมียนมา ที่บ้านเลเตอก่อ จังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ปะทะกันอย่างหนัก ฝ่ายทหารเมียนมาได้พยายามยิงกระสุนปืนค.ลงในหมู่บ้าน และส่งกำลังทหารเข้าไปเพื่อจะยึดหมู่บ้านคืน แต่ก็ถูกฝ่ายกะเหรี่ยงยิงตอบโต้อย่างหนัก ขณะที่ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ได้ออกตระเวนแนวชายแดน พร้อมกับตรวจสอบพื้นที่ว่า มีกระสุนลำเข้ามาตกในเขตไทยหรือไม่
นายสมศักดิ์ คำแผง ราษฎรบ้านดอนไชย กล่าวว่า ทหารกะเหรี่ยงกับ ทหารเมียนมยังคงสู้รบกันอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึง เวลา 23.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.64 และต่อมายิงกันอีกในเวลา11.00 น. และดูเหมือนว่า หนักกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกตนเองได้ใช้บริเวณรอบๆ บ้านเป็นที่กำบัง บางครอบครัวต้องไปจากหมู่บ้านเพื่อไปอยู่ที่บ้านแม่ตาว
อย่างไรก็ดี หลังจากทางไทยส่งผู้ลี้ภัยกลับไปฝั่งเมียนมา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 64 นั้น ทราบว่า ทางชาวบ้านฝั่งเมียนมาติดต่อเพื่อขอกลับมาเขตไทย แต่ไม่มีใครกล้าไปรับเพราะจะผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับที่ 19 ธันวาคม 64 ฝ่ายไทยยังคงส่งผู้ลี้ภัยกลับไปกว่า 100 คน โดยประสานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา (ทีบีซี.) แต่ทางฝ่ายเมียนมาไม่รับ และไม่รับรองความปลอดภัย โดยประสานกันที่บริเวณท่าข้ามทางธรรมชาติ 2 จุด แต่ฝ่ายเมียนมาไม่รับรองความปลอดภัย ทำให้การส่งผู้ลี้ภัยกลับไปล้มเหลว
ล่าสุด การสู้รบดังกล่าวมีกระสุนปืนใหญ่ไปตกลงบริเวณบ้านคนไทย ที่สร้างไว้ในฝั่งเมียนมาจนเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้คนไทยบางกลุ่มเป็นห่วงบ้าน และทรัพย์สินต่างไปยืนดูกันในลักษะกล้าๆ กลัวๆ
สำหรับการสู้รบของทั้งฝ่าย ยังคงมีกระสุนอาวุธหนักล้ำเข้ามาเขตไทย ส่วนมากตกลงริมฝั่งแม่น้ำเมย และในสวนป่าใกล้หมู่บ้าน ขณะที่ผู้ลี้ภัยยังอยู่ในเขตไทยราว 1,900 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: