กลุ่มผู้ค้าโคกระบือ และกลุ่มห่วงโซ่ กว่า 100 คน เดือดร้อนหนัก ดักรอพบรมช.เกษตรจขอให้เปิดนำเข้าโค กระบือ
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 66 ที่สำนักงานเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และนายเทอดเกียรติ์ ชินสรนันท์ อดีตผู้สมัครส.ส.จ.ตาก เขต 2 พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยคณะได้ไปสำนักงานเทศบาลนครแม่สอด เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผวจ.ตาก และเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ รวมทั้งผู้บริหารเทศบาลนครแม่สอด ให้การต้อนรับ โดยขณะที่นายไชยากำลังเดินเข้าไปเทศบาลนครแม่สอดนั้น มีกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าโคกระบือ และกลุ่มเกษตรกรโคขุน รวมทั้งกลุ่มอัดฟาง และอาหารสัตว์ ถือป้ายรอพบ และนายไชยาเข้าไปพบ ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบการขอให้นายไชยา พิจารณาเปิดให้มีการน้ำเข้าโคกระบือตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยทางกรมปศุสัตว์ได้ปิดมานาน กว่า 8 เดือนแล้ว ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการต่างๆได้รับความเดือดร้อนมาก ตั้งแต่คนนำเข้าโค คนเลี้ยง รถยนต์บรรทุก คนขายอาหารวัว ต่างได้รับความเดือดร้องมาก จึงขอให้นายไชยาเปิดให้โค กระบือนำเข้ามาประเทศไทยตามปกติ เพราะโคที่เข้ามาส่วนมากส่งไปต่างประเทศ ใช้ในประเทศไทยเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ทำให้ไม่มีผลกระทบกับการค้าโคในประเทศ
นายประสาน เขียวคล้าย พ่อค้าโคแม่สอด กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนกันมากจากการค้าโคหยุดชะงักหมด บางคนไม่มีทุน ต้องไปกู้เงินเขามา อยากให้นายไชยาเปิดชายแดนเพื่อนำโคเข้า เพื่อจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นายไชยา กล่าวว่า ที่มาแม่สอดต้องการให้นโยบายว่า จะทำให้แม่สอดเป็นแหล่งกักกันโค ปลอดโรค ปลอดภัย เพื่อนำสินค้าส่งออกไปต่างประเทศมีคุณภาพ และจะทำให้จีดีพี.ดีขึ้น เกษตรกรจะมีรายได้ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ทุกฝ่าย การขอให้เปิดนำโคเข้ามานั้น ต้องสร้างความมั่นใจก่อน ไทยต้องมีตลาดวัวจากแม่สอดที่ปลอดโรคปลอดภัย และส่งไปต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดในตะวันออกกลาง เช่นประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น ส่วนการแก้ปัญหาความเดือดร้อนนั้น จะต้องให้เกษตรกร และผู้เลี้ยงโคทั้งสองฝ่ายคุยกัน เพราะมีทั้งฝ่ายที่ต้องการให้มีการนำเข้า กับ ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการนำเข้า
