เสนอยัดเงินเจ้าหน้าที่ทหาร 5 ล้านหลังถูกจับย้ายอุปกรณ์สื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 พันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก (ฉก.ร.4) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด ฝ่ายปกครอง และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ได้แถลงข่าวผลการตรวจยึดจับกุมอุปกรณ์การสื่อสารเป็นวัสดุ และชิ้นส่วนจำนวนมากของกลุ่มคอลเซ็ลเตอร์เพื่อหลอกลวงประชาชน ณ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารจุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด (เส้นทางสายอ.แม่สอด – อ.เมืองตาก) ตรวจยึดจับกุมคนขับรถยนต์เป็นชาย 2 คน พร้อมอุปกรณ์ดังกล่าวภายในรถยนต์ จากนั้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปขยายผลไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 1212/90 หมู่บ้านนภาดล ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ในระหว่างตรวจค้นพบอุปกรณ์การสื่อสารอีกจำนวนมาก โดยเจ้าของบ้านอ้างว่า มีคนรู้จักกันนำมาฝากไว้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ได้ประสานกับตรวจคนเข้าเมืองจ.ตาก และตำรวจสภ.แม่สอดจะทำการขยายผลต่อไป เพราเชื่อว่ามีชาวจีนเป็นกลุ่มคอลเซ็นเตอร์เกี่ยวข้องด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการตรวจยึดอุปกรณ์ในรถยนต์ทั้ง 2 คัน ที่จุดตรวจห้วยหินฝนนั้น มีชายคนหนึ่งพยายามติดต่อกับนายทหารประจำจุดตรวจ เพื่อติดสินบนจำนวน 1 ล้านบาท แต่ถูกปฏิเสธ และพยายามจะต่อรองเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม และตรวจยึดจับกุมทั้งหมด จากนั้นได้ประสานกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
พันเอกณัฐกร กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในด้านการปฏิบัติ และการข่าว ทราบว่า จะมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์การสื่อสารเป็นวัสดุ ชิ้นส่วนที่หลอกลวงประชาชนของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์จากชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไปกทม. จึงทำการสกัดจับกุมได้ และจะต้องให้ทางตำรวจขยายผลต่อไป ส่วนการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น ผู้ถูกจับกุมแจ้งว่า ไปส่งกทม.แต่จะไม่บอกปลายทางที่ใด เพราะมีการตัดช่วงไม่ให้มีการขยายผล ส่วนสาเหตุที่มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน คงเป็นเพราะความเข้มงวดร่วมกันระหว่างตำรวจเมียนมา ตำรวจไทย และตำรวจจีน ทำให้ต้องย้ายออกจากพื้นที่ชายแดน
