คดีที่น่าเห็นใจ ลูกชายใช้ปืนพกสั้นฆ่าพ่อหวังช่วยแม่ที่ถูกพ่อซ้อมมาโดยตลอด แต่ถูกพ่อไล่ล่า ใช้มีดฟันหลายแผล
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ชาวบ้านม่อนหินเหล็กไฟ ม.3 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตากได้ไปร่วมงานศพนายจำรัส อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 322 ม.3 ต.มหาวัน อ.แม่สอด ณ ทางเลี่ยง บ่อนหินเหล็กไฟ บ้านม่อนหินเหล็กไฟ บรรยากาศค่อนข้างเศร้าสลด และชาวบ้านเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากเกิดเหตุลูกยิงพ่อเสียชีวิต ขณะที่พ่อทำร้ายแม่ประจำ เลิกรากันแล้วยังมีการทำร้ายกันอีกทำให้ลูกชาวต้องปกป้องแม่ และตนเองที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกบิดาฟันตามลำตัวหลายแผล ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อคนที่ผ่านมาเมื่อพ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ได้รับรายงานเหตุยิงกันในหมู่บ้านม่อนหินเหล็กไฟ ม.3 ต.มหาวัน อ.แม่สอดจึงสั่งให้พ.ต.ท.เอกรัฐ นุชเฉย รอง ผกก.สภ.แม่สอดนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ นายจำรัส อายุ 49 ปี นอนเสียชีวิตบนที่ว่างข้างถนนในหมู่บ้าน พบรอยกระสุนปืนตามลำตัว จำนวน 2 จุด และในที่เกิดเหตุพบนายอลงกรณ์ อายุ 16 ปี บุตรชายนายจำรัสได้รับบาดเจ็บจากถูกฟันตามร่างกายมีแผลหลายจุด และสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้หญิงนายจำรัส ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกโม่ ไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด .22 ถูกยิงไปจำนวน 4 นัด คงเหลือในรังปืนอีกที่ยังไม่ได้ยิง 3 นัด พร้อมกับมีดหัวตัด ความยาวประมาณ 50 ซม. จำนวน 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด
จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นได้ความว่า นายจำรัสฯเป็นบิดาของนาย อลงกรณ์ฯ โดยนายจำรัส ได้เลิกรากับมารดาของนายอลงกรณ์ไปแล้ว แต่ยังมีพฤติกรรมตามก่อกวนหาเรื่องทะเลาะตบตีมารดาของนายอลงกรณ์อยู่เสมอ และครั้งนี้นายอลงกรณ์ก็ถูกทำร้ายด้วย จึงขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี มาข้างทางโดยที่มีนายจำรัสขับรถยนต์ไล่ติดตามมา จากนั้นนายจำรัสถือมีดวิ่งไล่ฟันตามแขน และขาของนายอลงกรณ์ฯจนได้รับบาดเจ็บ จนทำให้นายอลงกรณ์ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงนายจำรัสจนวิ่งไปได้ 40 เมตร และล้มลงเสียชีวิต ขณะที่นายอลงกรณ์ไม่หนีไปไหน และรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจไปถึงได้ควบคุมตัวนายอลงกรณ์ และสอบถามเหตุดังกล่าวจากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งยังโรงพยาบาล เพื่อรอดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายตามกฎหมายต่อไป
