พ่อชาวเมียนมา ใช้มีดปาดคอลูกตัวเอง อายุ 6 ขวบ แม่ยายเผย ติดสุรา และการพนัน แต่รักลูกมาก สุดท้ายสำนึกได้อุ้มลูกจะไปส่งรพ. แต่ตายก่อน
เมื่อวันเวลา 08.00 น. ร้อนตำรวจเอก นที คำสุข ร้อยเวรสภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุ ฆ่ากันตาย บริเวณหน้าศูนย์การเรียนรู้ แห่งหนึ่ง ถนนสายตำบลแม่สอด – ตำบลพระธาตุผาแดง เขตตำบลแม่สอด และผู้เป็นพ่อนำศพมาวางไว้ข้างถนน หน้าโรงเรียนราษฎร์วิทยาคม ตำบลแม่สอด จึงประสานหน่วยกู้ภัย และแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบศพเด็กน้อยชาวเมียนมา อายุ 6 ขวบ ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.เหน่ซาน และข้างศพพบนายหม่องปุ อายุ 52 ปี ชาวเมียนมา เป็นพ่อของเด็ก นั่งอยู่ และมีชาวบ้านล้อมไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว และใส่กุญแจมือ พร้อมกับตรวจสอบสภาพศพ พบบาดแผลที่บริเวณคอ มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก จากนั้นจึงสอบสวน และทราบว่า นายหม่องปุ ได้ปาดคอบุตรชายที่บ้าน และอุ้มศพเดินออกมาจากบ้าน เป็นระยะทาง 300 เมตร จึงไปตรวจสอบที่บ้านของนายอ่องปุ พบรอยเลือด เต็มที่นอน ในกระท่อม และมีคราบเลือด จากในบ้านมาถึงหน้าบ้าน และประตูรั้วบ้านทางเขาไปในสวน
จากการสอบถามนางไมนา อายุ 60 ปี แม่ยายของนายหม่องปุ ทราบว่า นายหม่องปุ เป็นหัวช่างไม้ สร้างบ้าน ได้แต่งงานกับนางอัสมาลูกสาวของตนเองมานานหลายปีแล้ว และหย่าร้างกันไป กว่า 1 ปี ปกตินายหม่องปุ รักลูกมาก แต่เป็นคนดื่มสุรา และชอบเล่นการพนัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงฆ่าลูก ส่วนแม่ของเด็กี่ตายนั้น ทำงานอยู่ในกทม. หลังจากเลิกกับ นายหม่องปุไป ซึ่ง ตนเองเคยขอขอหลาน หรือ ด.ช.เหน่ซานไปเลี้ยงเอง ส่วนสาเหตุที่นายหม่องปุไม่ยอม ด้วยความรักลูก ส่วนการที่ฆ่าลูกเสร็จแล้ว นายหม่องปุได้อุ้มลูกออกมาจากบ้านนั้น ไม่ทราบ อาจจะเป็นไปได้ว่า สำนึกผิด และนำร่างของลูกไปที่โรงพยาบาล แต่เมื่อทราบว่า เสียชีวิตแล้ว จึงนำศพวางไว้ และนั่งสงบนิ่ง จนพูดจาไม่รู้เรื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- สลด เจ็ทสกีชน นทท.จมทะเลหาย ศพโผล่กลางดึก หาดกะรน ต.กะรน จนท.เร่งสืบสวน
- สองแม่ลูกปีนหน้าต่างชั้น 2 หนีตายไฟไหม้บ้านกลางดึก คาดไฟฟ้าลัดวงจร
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
สำหรับคดีนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้ปกครองเด็กที่กำลังส่งลูกหลานไปโรงเรียน นับ 1,000 คน เพราะที่เกิดเหตุอยู่ใกล้โรงเรียน และเป็นย่านชุมชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: